Bitcoin พุ่งทะลุ 1 ล้านบาทหรือที่ประมาณ 33,000 ดอลลาร์ เป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อคืนวันที่ 2 มกราคม 2021 นับตั้งแต่สร้างจุดสูงสุดใหม่เหนือ 20,000 ดอลลาร์ ในช่วงปลายปี 2020 บิทคอยน์ก็พุ่งอย่างต่อเนื่องจนแทบตั้งตัวไม่ทัน เรามาดูกันว่าจะเทรดบิทคอยน์อย่างไรให้มีกำไรในปี 2021
ราคาบิทคอยน์จะพุ่งไปถึงไหน??
การที่บิทคอยน์ผ่านจุดสูงสุดเดิมในปี 2017 ที่ระดับ 20,000 ดอลลาร์ ในทางเทคนิคถือว่ากำลังเข้าสู่ Wave ที่ 3 ตามทฤษฎี Elliot Wave ซึ่งจะเป็นขาขึ้นที่ระยะเวลายาวนานที่สุด หมายความว่าบิทคอยน์สามารถขึ้นไปได้เรื่อยๆโดยไม่มีแนวต้านและอาจจะกินระยะเวลามากกว่าหนึ่งปี
ไม่ไล่ราคาโดยเด็ดขาด
แม้แนวโน้มบิทคอยน์ในระยะยาวจะเป็นขาขึ้นก็ตามแต่ไม่แนะนำให้นักลงทุนเข้าซื้อแบบไม่คิดหรือเข้าไปไล่ราคาเมื่อเห็นแท่งเทียนสีเขียวยาวๆเพราะอย่าลืมว่าราคาบิทคอยน์ขึ้นมาสูงมากแล้วและมีผู้ที่ถือบิทคอยน์ในราคาที่ต้นทุนต่ำมากๆอยู่หลายรายซึ่งพร้อมที่จะเทขายได้ทุกราคา จึงไม่มีความจำเป็นต้องรีบเข้าซื้อเพราะจะทำให้เกิดความเสี่ยง
กลยุทธ์การเทรดบิทคอยน์ในภาวะขาขึ้นด้วย EMA
จากการใช้เครื่องมือทางเทคนิคอย่างเส้น EMA 9,35 และ 59 จะเห็นได้ว่าตั้งแต่เดือนตุลาคม 2020 ที่บิทคอยน์เริ่มต้นเป็นขาขึ้นจากการที่เกิด Golden Cross (เส้น EMA ระยะสั้นตัดเส้นระยะยาวขึ้น) ราคาบิทคอยน์ ยังไม่หลุดต่ำกว่าเส้น EMA สามเส้นนี้อีกเลย โดยการพักฐานแรงที่สุดคือการลงมาระดับ EMA35 แล้วมีการฟื้นตัวขึ้น
นักลงทุนสามารถใช้เส้น EMA ทั้งสามเส้นในการเป็นจุดรับเพื่อเข้าซื้อได้โดยสามารถแบ่งเป็นสามไม้ทะยอยเข้าซื้อได้ตามแนวรับดังกล่าว จะช่วยให้ได้บิทคอยน์ที่ราคาเฉลี่ยไม่สูงมากนัก โดยหากราคาหลุดจากสามเส้น EMA ดังกล่าวอาจต้องปิดความเสี่ยงด้วยการขายไปก่อน
วิเคราะห์กราฟเทคนิค BTC
BTC พุ่งแรงอย่างต่อเนื่องชนิดไม่มีหยุดพัก ระยะสั้นให้จับตาระดับ 30,300 ดอลลาร์หรือใช้เส้น EMA9 เป็นแนวรับ ส่วนเป้าหมายต่อไปจะเป็นแนวต้านตามแนว Fibonacci 261.8 ที่ระดับ 47,218 ดอลลาร์ ซึ่งยังพอมีอัพไซด์เกนอีกประมาณ 40% จากราคาปัจจุบัน แนะนำว่าให้รอราคาย่อตัวลงมาก่อนอย่าไปไล่ซื้อในราคาที่สูง
วิเคราะห์กราฟเทคนิค ETH
ETH ทะลุผ่านแนวต้านสำคัญ 833 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดเดิมตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2018 มาได้อย่างรวดเร็ว และล่าสุดได้ทดสอบอีกแนวต้านสำคัญคือระดับ 1,000 ดอลลาร์และมีการย่อตัวลง หากผ่านไปได้จะมีแนวต้านต่อไปคือ 1,270 ดอลลาร์ นาทีต้องยอมรับว่า ETH มีโอกาสจะกลับไปยังจุดสูงสุดเดิมได้เช่นเดียวกับ BTC แล้ว ส่วนระยะสั้นมีแนวรับที่ระดับ 833 ดอลลาร์ หากไม่หลุดจากนี้ก็มองไปถึง All Time High ได้เลย
