ก่อนจะอธิบายว่าทำไม Bitcoin ถึงมีสถานะคล้ายกับเงินตรา เรามาทบทวนกันอีกครั้งว่าทำไมทองคำถึงได้รับการยอมรับในการเป็นสกุลเงินที่นำมาใช้แลกเปลี่ยนสินค้าได้
หนึ่ง..ทองคำมีจำนวนจำกัดบนโลกนี้ สิ่งใดก็ตามที่มีอยู่จำนวนจำกัด ตามหลักเศรษฐศาสตร์ย่อมเป็นสิ่งที่มีค่า ทองคำนอกจากจะมีจำกัดแล้วยังยากที่จะถูกขุดขึ้นมาใช้งานยิ่งทำให้มีค่าในตัวมากขึ้น ไม่นับความสวยงามที่ทำให้ทุกคนต่างหมายปอง ต่างจากเงินในระบบ Fiat Currency ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันที่สามารถพิมพ์ออกมาได้ไม่จำกัด
Bitcoin ที่จำกัดตัวเองให้มีปริมาณในระบบทั้งหมด 21 ล้านหน่วย จึงมีคุณลักษณะที่คล้ายกับทองคำในที่สุดเพราะทองคำมีปริมาณบนโลกที่จำกัด ไม่สามารถผลิตขึ้นมาใช้ได้เอง
สอง..ขุดขึ้นมาใช้งานยากกว่าที่จะขุดทองคำออกมาใช้งานจากเหมืองได้ต้องมีต้นทุนจำนวนมาก การที่ยากต่อการนำมาใช้ทำให้ทองคำมีคุณค่าในตัวเอง ส่วน Bitcoin ก็มีความลำบากในการนำขึ้นมาใช้เหมือนกันเพราะต้องใช้ฮาร์ดแวร์ที่มีกำลังประมวลผลเพื่อที่จะถอดรหัสออกมาใช้ (เป็นที่มาของศัพท์ที่เรียกันว่าขุดหรือ Mining) ช่วงแรกๆที่ Bitcoin ถูกสร้างขึ้นมาจะสามารถขุดได้ง่าย แต่ตอนนี้การขุดจะทำได้ยากขึ้น ยิ่งทำให้มีมูลค่าในตัวเองมากขึ้น
สาม..ทั่วโลกยอมรับเป็นมาตราฐานเดียว ทองคำเป็นสิ่งเดียวในโลกที่ทั่วโลกยอมรับให้มีการแลกเปลี่ยนเป็นเงินตราได้ พูดง่ายๆคือเรานำทองคำไปขายในประเทศไหนก็ได้เพื่อแลกเป็นเงินสกุลท้องถิ่น แต่บางสกุลเงินที่ไม่ได้มีผู้ใช้งานมาก อาจมีความลำบากในการแลกเปลี่ยน อาจจะต้องมีสื่อกลางนั่นคือเงินสกุลหลักๆอย่าง ดอลลาร์สหรัฐ มาใช้แลกเปลี่ยน Bitcoin ถูกสร้างขึ้นมาด้วยมาตราฐานเดียวกันทั่วโลกเช่นกัน (เนื่องจากอยู่ในโลกของดิจิทัล)
หากเรายอมรับในทองคำเป็นสื่อกลางแลกเปลี่ยนสินค้าก็ต้องยอมรับ Bitcoin เป็นสื่อกลางแลกเปลี่ยนได้เช่นกัน ทำให้ Bitcoin มีสถานะเป็นตัวพ่อของเงินดิจิทัลทั้งหมด ชนิดที่หา Crypto Currency อื่นมาเทียบได้ยาก
คำถามคือ เราสามารถใช้ Bitcoin ในการซื้อสินค้าหรือชำระหนี้ได้จริงหรือไม่? คำตอบคือสามารถทำได้ในประเทศที่ให้การยอมรับ Bitcoin ในฐานะสกุลเงิน อย่างเช่นประเทศญี่ปุ่นที่มีความแพร่หลายในการใช้ Bitcoin จับจ่ายซื้อสินค้าแม้กระทั่งร้านค้าปลีกชั้นนำต่างให้การยอมรับ ส่วนประเทศอื่นๆจะขึ้นอยู่กับร้านค้านั้นๆจะยอมรับหรือไม่
ฺBitcoin ยังใช้เป็นสื่อกลางในการโอนเงินระหว่างประเทศผ่านเครือข่าย Blockchain ได้อีกด้วยซึ่งมีความรวดเร็วสูงและค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่าการโอนเงินทั่วไปผ่านธนาคารพาณิชย์
ด้วยคุณสมบัติของ Bitcoin ที่สามารถเข้ามาทดแทนสกุลเงิน Fiat Currency ที่ใช้ในปัจจุบันได้ ทำให้ Bitcoin ได้รับการยอมรับให้เป็นตัวพ่อของ Crypto Currency ชนิดที่หาสกุลเงินดิจิทัลอื่นมาเทียบเคียงได้ยากในแง่ของความนิยมในการใช้งานและซื้อขาย ทำให้เกิดชื่อเรียกสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆว่า Altcoin หรือ Alternate Coin คือเหรียญ Crypto Currency ทุกๆเหรียญที่ไม่ใช่ Bitcoin เนื่องด้วยความที่เหรียญ Bitcoin นั้นคือต้นกำเนิดของทุกๆสิ่ง ทำให้เหรียญที่โผล่ออกมาหลังจากนั้นบนเทคโนโลยี Blockchain จึงถูกเรียกว่าเหรียญทางเลือกหมด