ในการออก ICO แต่ละครั้งเราจะได้พบเห็น Token ประเภทต่างๆซึ่งจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป เราไปดูกันว่าในโลกของ ICO มีเหรียญประเภทใดบ้าง และมีข้อที่พึงรู้ในส่วนใดบ้าง
1. Utility Token เป็น Token ที่มีอยู่มากที่สุดในวงการ ICO ตอนนี้ในสัดส่วนกว่า 99% เนื่องจากมีขั้นตอนไม่ยุ่งยากในการออกเหรียญ และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลายโดยไม่ต้องขออนุญาตหน่วยงานกำกับดูแลตลาดหลักทรัพย์ของแต่ละประเทศ เนื่องจากไม่มีสินทรัพย์ใดๆมาเกี่ยวข้องนั่นเอง จึงเป็นเหรียญที่มีความคล่องตัวสูง
หากนึกภาพไม่ออก ขอให้นึกถึงไอเท็มที่ซื้อขายกันในเกมส์ ก็ไม่มีตัวตนอยู่ในโลกแห่งความจริงแต่สามารถใช้เงินจริงในการซื้อขายกันได้เพื่อแลกกับการนำไปใช้ประโยชน์ เช่น เอาไปปราบบอส สร้างอาวุธ เป็นต้น
ขึ้นชื่อว่า Utility หมายความว่าเป็น Token ที่นำไปใช้ประโยชน์ในแพลตฟอร์มต่างๆในโปรเจคท์ ICO เช่น นำไปใช้เป็น Reward แลกสิทธิประโยชน์ หรือใช้เป็น Discount ส่วนลดจากการจ่ายค่าบริการด้วย Fiat Currency นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นสื่อกลางในการโอนเงินได้เช่นกัน
ข้อควรระวังของ Utility Token ก็คือการที่ไม่สินทรัพย์ที่มีตัวตนอยู่จริงรองรับอาจเป็นเครื่องมือของผู้ออก ICO ที่เข้าข่ายหลอกลวง (Scam) ได้ และต้องพิจารณาให้มั่นใจว่าแพลตฟอร์มที่จะนำ Token นั้นๆไปใช้ได้สร้างเสร็จแล้วและสามารถใช้งานได้จริง
2.Securities Token เป็น Token ที่มีสินทรัพย์ซึ่งมีตัวตนจริง Backup อยู่ เช่นทองคำ อสังหาริมทรัพย์ หรือตราสารประเภทต่างๆ ปัจจุบันมีเพียงไม่กี่ประเทศที่ยอมรับการออก ICO ในรูปแบบดังกล่าวอย่างเสรี ส่วนมากผู้ออกจะต้องยื่นเรื่องต่อหน่วยงานกำกับด้านตลาดทุนของแต่ละประเทศ ทำให้ไม่เป็นที่ได้รับความนิยมมากนัก
ข้อควรระวังคือ การที่ Token ประเภทนี้มีสินทรัพย์หนุนหลังทำให้ต้องมีการตรวจสอบที่เชื่อถือได้ว่าแต่ละ Token นั้นมีสินทรัพย์หนุนหลังจริงหรือไม่ ซึ่งอาจจะเข้าข่ายการหลอกหลวงหรือ Scam ในอีกแบบหนึ่ง แต่คุณค่าของ Token รูปแบบนี้ก็คือการมีสินทรัพย์ที่จับต้องได้อยู่นั่นเอง
ปัจจุบันได้เกิดรูปแบบการระดมทุนแบบใหม่ที่เรียกว่า STO ขึ้น โดยใช้ Securities Token ในการแลกเปลี่ยนซื้อขาย
3. Equity Token เป็น Token ที่มีหุ้นเป็น Backup เช่น หุ้นของสตาร์ทอัพที่เป็นผู้ออก ICO ซึ่งผู้ที่ถือ Token สามารถนำมาแปลงให้เป็นหุ้นสามัญได้ อย่างไรก็ตาม Token ประเภทนี้ไม่มีมากนักในตลาด เพราะจุดประสงค์ของการออก ICO ก็เพื่อระดมทุนโดยไม่เสียความเป็นเจ้าของหรือสัดส่วนการถือหุ้น ไม่ว่าจะเป็น Token ประเภทใดก็ตามล้วนแต่มีโอกาสที่จะถูกหลอกลวงหรือ Scam ได้ทั้งสิ้น ผู้ลงทุนควรที่จะต้องศึกษารายละเอียดของโปรเจคท์ให้ถี่ถ้วนเพื่อไม่ให้เป็นเหยื่อของนักต้มตุ๋น