- กระเป๋าเงินหยวนดิจิทัลเหล่านั้นมีอภิสิทธิ์ในระดับสูงสุด ซึ่งไม่ต้องใช้วงเงินในการทำธุรกรรม เพียงแต่จะต้องเปิดกับธนาคารที่มีบัตรประจำตัวที่ระบุตัวตนส่วนบุคคลไว้
- ขณะนี้ ชาวจีนมากกว่า 140 ล้านคนได้สร้างบัญชีหยวนดิจิทัล หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 1 ใน 10 ของประชากรทั้งหมด
จากข้อมูลของธนาคารกลางจีน หรือ People’s Bank of China (PBOC) พบว่ามีชาวจีนกว่า 140 ล้านคนได้สร้างบัญชีหยวนดิจิทัล หรือคิดเป็นสัดส่วนราว 1 ใน 10 ของประชากรทั้งหมด
Mu Changchun หัวหน้าสถาบัน Digital Currency Institute ของ PBoC กล่าวในความคิดเห็น ที่งาน Hong Kong Fintech Week เมื่อวานนี้ว่า ที่สำคัญกว่าจำนวนผู้ใช้งาน ก็คือมูลค่าของธุรกรรมใน e-CNY ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางจีนตามที่ทราบกันดีอยู่นั้นได้ขยับปรับพุ่งสูงแตะระดับ 9,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐในระหว่างการทดลองเปิดตัวในหลายภูมิภาค
ทั้งนี้ ท่ามกลางธนาคารกลาวทั่วโลกกว่า 80% ที่กำลังออกสกุลเงินดิจิทัลของตนเอง หรืออยู่ในระหว่างการศึกษาพิจารณาความเป็นไปได้อย่างจริงจัง ธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ (Bank of International Settlements : BIS) ระบุว่า ประสบการณ์ของจีนอาจจะเป็นประโยชน์
สำหรับความกังวลหลักประการหนึ่งของบรรดาธนาคารกลางอื่นๆ คือ การออกสกุลเงินโดยตรงให้กับพลเมืองอาจบ่อนทำลายบทบาทของธนาคารพาณิชย์ในระบบการเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่มีความเครียดทางการเงิน เมื่อบุคคลและบริษัทอาจพบว่า “ปลอดภัย” ในการฝากเงินดิจิทัล สกุลเงินโดยตรงกับธนาคารกลาง
โดยประเด็นความเหมาะสมของธนาคารกลางในการพิจารณาว่าใครควรได้รับเงินกู้และจำนวนเท่าใด ตลอดจนการบริหารงานส่วนงานอื่นๆ ของธนาคารพาณิชย์ ทำให้เกิดความเสี่ยงด้านศีลธรรมและเพิ่มโอกาสในการทุจริต ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยที่ชะลอการพัฒนาของ สกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางสำหรับประเทศอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม จีนมีปัญหาน้อยกว่าเนื่องจากธนาคารเกือบทั้งหมดเป็นของรัฐ
Mu ของ PBoC ได้แสดงความเห็นที่งานประชุม Hong Kong Fintech Week อีกว่า ผู้ประกอบการสกุลเงินหยวนดิจิทัลสามารถเปิด e-wallets ได้ 4 ประเภทสำหรับลูกค้า โดยที่มีขีดจำกัดการทำธุรกรรมต่ำสุดอยู่ที่ประมาณ 782 เหรียญสหรัฐ โดยมีมูลค่าสูงสุดต่อปีที่ 7,820 เหรียญสหรัฐ เพียงต้องการหมายเลขโทรศัพท์ ทำให้แน่ใจได้ว่าจะไม่เปิดเผยตัวตน แม้แต่จาก PBoC เอง
กระเป๋าเงินหยวนดิจิทัลที่มีสิทธิ์ระดับสูงสุดและไม่ต้องใช้วงเงินในการทำธุรกรรมจะต้องเปิดกับธนาคารที่มีบัตรประจำตัวส่วนบุคคล
ทั้งนี้ Mu ย้ำว่ากระเป๋าเงินหยวนดิจิทัลเหล่านี้จะรวบรวมข้อมูลการทำธุรกรรมน้อยกว่าบริการชำระเงินดิจิทัลที่ชาวจีนส่วนใหญ่พบว่าขาดไม่ได้ เช่น Alipay และ WeChat Pay และรับรองว่า PBoC จะไม่ให้ข้อมูลแก่บุคคลที่สามหรือหน่วยงานรัฐบาลอื่น ๆ เว้นแต่จำเป็น ตามกฎหมาย
