- ภายในตลาดที่ขาดแคลนข่าวดี บรรดานักลงทุนใช้รายงานการประชุมของเฟดเป็นสัญญาณให้กลับเข้าสู่ตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากการประเมินมูลค่าได้ล้มเหลว
- แต่นักลงทุนทั้งหลายอาจต้องประหลาดใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากตลาดแรงงานที่ตึงตัวอยู่แล้วแสดงออกถึงตัวเลขที่แข็งแกร่ง
เมื่อพิจารณาจากความแข็งแกร่งของการดีดตัวขึ้นของหุ้นในสัปดาห์ที่แล้ว นักลงทุนจะได้รับการอภัยเพราะเชื่อว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
จากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ครั้งล่าสุด มีสัญญาณว่าผู้กำหนดนโยบายอาจไม่เข้มงวดในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างที่คิด โดยกังวลว่าการดึงสายด่วนเกินไปอาจเสี่ยงต่อการกระตุ้นการว่างงาน
ภายในตลาดที่ขาดแคลนข่าวดี บรรดานักลงทุนใช้รายงานการประชุมของเฟดเป็นสัญญาณให้กลับเข้าสู่ตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากการประเมินมูลค่าได้ล้มเหลว
ทั้งนี้ สัญญาณของความอ่อนแอในข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่เผยแพร่ในสัปดาห์นี้ได้ลดความคาดหวังว่าเฟดจะให้คะแนนอัตราในปีนี้สูงเพียงใด
แต่นักลงทุนทั้งหลายอาจต้องประหลาดใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากตลาดแรงงานที่ตึงตัวอยู่แล้วแสดงออกถึงตัวเลขที่แข็งแกร่ง
จากผลสำรวจของบรรดานักเศรษฐศาสตร์จาก FactSet แม้ว่าอัตราการว่างงานคาดว่าจะลดลงสู่ระดับต่ำสุดในสหรัฐอเมริกานับตั้งแต่เริ่มมีการระบาดใหญ่ แต่กระทรวงแรงงานสหรัฐคาดว่าจะรายงานเมื่อวันศุกร์ว่ามีงานเพิ่มเพียง 318,000 ตำแหน่งในเดือนพฤษภาคม ลดลงจาก 428,000 จากเดือนก่อนหน้า
บรรดานักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์การจ้างงานในช่วงสามในสี่เดือนที่ผ่านมาต่ำกว่าตัวเลขที่รายงาน กล่าวคือ ตลาดแรงงานที่ตึงตัวของสหรัฐฯ มักสร้างความประหลาดใจให้กับขาขึ้น และอาจเห็นการปรับฐานที่ชัดเจนของหุ้นหากเป็นกรณีดังกล่าว
หลักฐานที่แสดงว่ายังคงมีแรงกดดันด้านค่าแรงที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องสามารถจุดชนวนความกลัวเรื่องเงินเฟ้อที่เพิ่งเริ่มเย็นลง โดยที่มาตรการเงินเฟ้อของตลาดลดลงในช่วงไม่กี่สัปดาห์มานี้ และราคาผู้บริโภคในเดือนเมษายนที่ผ่านมาได้เติบโตช้าลง
นั่นจึงเป็นเหตุผลของการที่บรรดานักลงทุนพากันพาเหรดเข้าซื้ออย่างมากเมื่อสัปดาห์ที่แล้วอาจจำเป็นต้องตรวจสอบความเป็นจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากรายงานการจ้างงานที่แข็งแกร่งในวันศุกร์ทำให้เฟดดำเนินการอย่างเข้มแข็งเพื่อปราบปรามเงินเฟ้อ โดยเชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ สามารถฝ่าฟันมาตรการเช่นนี้ได้