- ธนาคารกลางชั้นนำหลายแห่ง รวมถึงธนาคารกลางของสหรัฐฯ (เฟด), ธนาคารกลางอังกฤษ(บีโออี), ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และธนาคารแห่งชาติสวิส กำลังเตือนถึงความเสี่ยงด้านเสถียรภาพของระบบที่อาจเกิดขึ้นจาก CBDC
- บรรดาธนาคารกลางเหล่านี้ยังเตือนด้วยว่า CBDCs มีศักยภาพที่จะบ่อนทำลายระบบการธนาคารพาณิชย์ กัดกินเงินฝากทางการค้าครั้งใหญ่ และเสี่ยงต่อการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของอุตสาหกรรม
ขณะที่ บรรดาสกุลเงินดิจิทัล (คริปโตเคอร์เรนซี) ได้เข้ามาอยู่ในจิตสำนึก ธนาคารกลางทั่วโลกซึ่งเคยปฏิเสธปรากฏการณ์นี้ในตอนแรก ได้ยอมรับสกุลเงินดิจิทัลของตนเองอย่างรวดเร็ว
และในขณะที่จีนเป็นประเทศแรกที่ออกสกุลเงินดิจิทัลกลางของธนาคารกลาง (CBDC) เหล่าธนาคารกลางระดับแนวหน้า ได้แก่ US Federal Reserve (ธนาคารกลางสหรัฐฯ – เฟด) , Bank of England (ธนาคารกลางอังกฤษ – บีโออี) , European Central Bank (ธนาคารกลางยุโรป – อีซีบี) และ Swiss National Bank (ธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์) ได้เตือนถึงเสถียรภาพของระบบ ความเสี่ยงจาก CBDC
แต่จะให้เข้าใจว่าความเสี่ยงนั้นคืออะไร ก่อนอื่นจำเป็นต้องเข้าใจว่าเงินถูกสร้างขึ้นอย่างไร
ทั้งนี้ ในระบบการเงินสมัยใหม่ส่วนใหญ่ พลเมืองไม่มีความสัมพันธ์โดยตรงกับธนาคารกลาง
ในทางกลับกัน รัฐบาลออกตราสารหนี้ให้ธนาคารพาณิชย์ซื้อแล้วขายให้ธนาคารกลางกลับมาสร้างเงินเพื่อจ่ายให้กับธนาคารพาณิชย์ ซึ่งส่วนใหญ่กลับไปใช้ของรัฐบาล และอีกส่วนหนึ่งไปกองทุน การจำนอง บัตรเครดิต สินเชื่อนักศึกษา และขอบเขตของบริการทางการเงินอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากผู้คนมีความสัมพันธ์กับธนาคารพาณิชย์ของตน ในกรณีที่ควรมีช่วงเวลาของความเครียดทางการเงิน ตัวของ CBDC อาจ “ถูกมองว่าเป็นที่หลบภัย” ตามรายงานที่เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดีโดยธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ (Bank for International Settlements – BIS)
“หลักฐานจากการดำเนินการของธนาคารในระบบก่อนหน้านี้บ่งชี้ว่าแรงผลักดันของการดำเนินการของธนาคารนั้นทรงพลังเพียงใด และด้วยเหตุนี้ต้นทุนการทำธุรกรรมที่ลดลงของ CBDC อาจทำให้การดำเนินกิจการของธนาคารแย่ลงไปอีก”
นอกจากนี้ บรรดาธนาคารกลางยังเตือนด้วยว่า CBDCs มีศักยภาพที่จะบ่อนทำลายระบบการธนาคารพาณิชย์ กัดกินเงินฝากทางการค้าครั้งใหญ่ และเสี่ยงต่อการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของอุตสาหกรรม
อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ และชาติเศรษฐกิจชั้นนำอื่นๆ มีแนวโน้มที่จะเดินหน้าดำเนินการตามแผนริเริ่มของ CBDC โดยนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวถึงการแถลงข่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า :
“การทดสอบขั้นสุดท้ายจะใช้ในการประเมินสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางและนวัตกรรมดิจิทัลอื่นๆ มีผลประโยชน์ที่ชัดเจนและจับต้องได้ซึ่งมีมากกว่าต้นทุนและความเสี่ยงหรือไม่?