SuperCryptoNewsได้สัมภาษณ์พูดคุยนัดพิเศษกับ Long Vuong ประธานเจ้าหน้าที่บริหารTomoChain บริษัทด้านเทคโนโลยีบล็อกเชนในสิงคโปร์ถึงวิสัยทัศน์และแนวทางการทำงานในช่วงปีที่ผ่านมา รวมถึงแผนการในอนาคต หลังสามารถประคับประคองบริษัทจนขยายตัวเติบโตได้ท่ามกลางวิกฤตการระบาดของไวรัสโควิด-19 ในปีนี้ได้
คำถาม ปีนี้ โลกต้องรับมือกับการระบาดของไวรัสโควิ-19 สถานการณ์ดังกล่าวมีผลกระทบต่อ Tomochain หรือไม่
-ปี 2020 ถือเป็นปีที่ท้าทายสำหรับทั่วโลกอย่างแท้จริง อย่างไรก็ตาม TomoChain ก็โชคดีมากที่เผชิญกับผลกระทบเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเมือเทียบธุรกิจในแวดวงอื่นๆ ทีมงานของเราปรับตัวรับกับสถานการณ์ได้อย่างดี และสามารถคิดหาทางเลือกอื่นๆ เรามุ่งโฟกัสไปที่การขยาย ผลิตภัณฑ์ on-chain ให้มากขึ้น รวมถึงงานด้านการบริการและการจัดกิจกรรมอีเวนต์บนโลกออนไลน์ที่ทุกสามรรถเข้าถึงผ่านสมาร์ทโฟนหรือแล็กท็อปของตนเองได้ ได้ดังนั้น มาตรการบังคับอย่างการทำงานที่บ้าน หรือ work from home จึงไม่มีผลกับการทำงานของเรา
คำถาม TomoChain สามารถบรรลุเป้าหมายการขยายธุรกิจได้หลายครั้งในปี 2020 ธุรกิจใหม่ตัวไหนที่ให้ผลเป็นที่น่าพึงพอใจที่สุด
- ก็อย่างที่ผมได้เกริ่นไว้ในข้างต้นว่า วิกฤตการระบาดในปี 2020 ไม่มีผลหยุดยั้ง TomoChain จากการเดินหน้าทำตามเป้าหมายของเราในปีนี้ได้
โดยหนึ่่งในไม่กี่ไฮไลท์ของระบบนิเวศน์ของเรา รวมถึง
- การเป็นพันธมิตรกับกระทรวงศึกษาธิการและการฝึกอบรมของเวียดนามในการรักษาความปลอดภัยของประกาศนียบัตรนับล้านใบบนเครือข่ายของเรา นับเป็นการขยายกรณีการใช้งานบล็อกเชนจริงไปยังภาคการศึกษา
-โปรโตคอล LuaSwap ซึ่งเป็น multi-chain โปรโตคอลสภาพคล่องบนEthereum สำหรับโปรเจ็กโทเคนเกิดใหม่โดยไม่ต้องมีการลงทุนในseed, ค่าธรรมเนียมผู้ก่อตั้ง หรือ pre-mining ด้วยรายได้ที่ได้จากสภาพคล่อง การstaking LUA และค่าธรรมเนียม LP
-TomoChain ได้สิทธิ์ Lition ซึ่งเป็นนักพัฒนาบล็อกเชนของรัฐและเอกชนที่เป็นที่รู้จักกันดีจากลักษณะข้อมูลที่สามารถลบได้ รวมถึงธุรกิจ core blockchain เทคโนโลยี ทรัพยากรบุลคล การคลัง และทรัพย์สินดิจิทัล
-นอกจากงานอีเวนท์ใหญ่ๆ และ เรายังมุ่งให้ความใส่ใกับการรักษาและปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของ public chain และผลตภัณฑ์ของเรา ซึ่งรวมถึง TomoP Public Testnet, TomoX Mainnet, TomoDEX, และ TomoBridge.
คำถาม ปีนี้ TomoChain ได้เน้นไปที่ DeFi แล้วคุณทำให้ ผลิตภัณธ์ DeFi ของ TomoChain แตกต่างจากจากเจ้าอื่นอย่างไร แล้วสิ่งที่คุณคาดหวังว่าจะเป็นเทรนด์ต่อไปหลังจาก DeFi คืออะไร
- การมีโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งคือสิ่งที่ทำให้ DeFiของTomoChainอตกต่างจากรายอื่น โดย TomoChainยังต่างจาก Ethereumตรงที่ให้ผู้ใช้งานได้สัมผัสประสบการณ์ที่เร็วกว่าแต่ค่าธรรมเนียมไม่แพงด้วย 2000 TPS, 2-second block time ซึ่งมีค่าธรรมเนียมเป็น 0
ผมเชือว่า DeFi เพิ่งจะอยู่ในขั้นแรกเริ่มเท่านั้นในฐานะกระแสอินเตอร์เน็ตการเงิน (Financial Internet) ที่จะยังคงวิวัฒนาการต่อไปได้อย่างแข็งแกร่งยิ่งขึ้นในอีก 3-5 ปีข้างหน้า ซึ่งหลายสิบปีจากนี้ ความมั่งคั่งจะถูกแปลงให้เป็นดิจิท้ลและเกี่ยวข้องกับคริปโต ดังนั้น เราจึงยินดีที่จะยืนในจุดยื่นของเราและสร้าง TomoChain ให้ไปสู่การพัฒนาอินเตอร์เน็ตการเงิน
คำถาม ยังมีความเชื่ออีกว่า NFTs จะเป็นเทรนด์ที่โค่น DeFi ได้ แล้ว TomoChain มีแผนที่จะประยุกต์ใช้หรือไม่
- จริงแล้ว สามารถพิจารณาได้ว่า NFTs ก็คือเครือญาติของ DeFi ซึ่งทั้งสองต่างก็ได้รับความสนใจในแวดวงคริปโตทั้งคู่ คุณแปลกใจไหมว่าทำไม NFTs จึงอยู๋ในลิสต์ที่เป็นกระแสเดียวกันกับ DeFi เหตุผลเพราะสิ่งที่ดึงดูด NFTsหลักๆ ก็คือความสามารถในการเก็บสะสม แลกเปลี่ยน เทรด ซื้อ และขาย บนเชน ได้อย่างง่ายดาย
เกี่ยวกับ NFTs บนระบบนิเวศน์ของ TomoChain พันธมิตรของเราอย่าง Pantograph ได้เปิดตัว Panto NFT ที่ผู้ใช้งานจะสามารถแปลงตั๋ว สิ่งที่เก็บรวบรวมได้ บัตรผ่าน และอื่นอีกมากมายเป็นดิจิทัลในรูป NFT (Non-fungible Token) ซึ่งจะคงอยู่ตลอดไปในTomoChain
ขณะที่ SotaNext หนึ่งในเครือของ TomoChain และเป็นผู้นำในบริษัทด้านการพัฒนาซอฟท์แวร์ในเวียดนามก็กำลังทำงานเพื่อพัฒนาผลิตภัณธ์ที่เน้น NFT เป็นหลัก ซึ่ง TomoChain เพิ่งจะประสบความสำเร็จในการเข้าถึงตลาดวงกว้างเป็นครั้งแรกในการใช้ NFTsเพื่อดำเนินธุรกรมมหลายแสนครั้งในช่วงเดือนที่ผ่านมา ผมไม่สามารถเปิดเผยได้มากไปกว่านี้ในขณะนี้ เพราะ NDAของเรา ก็อยากขอให้ติดตาม และรอดูการอัพเดทของเราในอนาคตครับ
คำถาม กระทรวงศึกษาธิการและการฝึกอบรมของเวียดนามเพิ่งมจะจับมือเป็นพันธมิตรกับ TomoChain ในการรักษาความปลอดภัยประกาศนียบัตรและใบรับรองต่างๆ ด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน แล้วคุณมีแผนการต่อไปอะไรที่จะอำนวยความสะดวกการใช้งานบล็อกเชน โซลูชั่นส์ในเวียดนาม
- ความร่วมมือเป็นพันธมิตรระหว่าง Tomochain กับกระทรวงศึกษาธิการและการฝึกอบรมของเวียดนามในปีนี้เป็นหนึ่งในความสำเร็จครั้งใหญ่ที่สุดของเราครั้งหนึ่ง เป็นตัวอย่างที่บล็อกเชนสามารถนำมาใช้งานในชีวิตประจำวันได้จริงในขณะนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อการปกป้องรักษาประกาศนียบัตรบนเชนของเราหลายล้านใบนี้ ยังทำให้กระบวนการจัดเก็บและเข้าถึงเอกสารทั้งหลายก้าวหน้าทันสมัยและสะดวกสบายมากขึ้น สำหรับในอนาคตอันใกล้ เพื่ะที่จะขยายการใช้งานบล็อกเชน โซลูชั่นส์ให้มากขึ้น ไม่เฉพาะในเวียดนามเท่านั้น แต่เป็นทั่วโลก เราจ ะ:
-มุ่งเน้นไปที่ปัจจัยด้านการเงิน เพื่อเชื่อมโยงช่องว่างระหว่างDeFiกับตลาดดั้งเดิม
-ขยายการใช้งานกรณีการรักษาความปลอดภัยที่ไม่จำกัดอยู่เพียงแค่ประกาศนียบัตรและใบรับรองเท่านั้น แต่ยังหมายรวมถึงสินทรัพย์อื่นๆ ในอุตสาหกรรมอื่นๆ ด้วย
คำถาม ในความเห็นของคุณ ประเทศต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะเวียดนาม จำเป็นต้องพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลกลางหรือ CBDC ของตนองหรือไม่ แล้วอะไรคือผลกระทบที่ CBDC จะทำให้เกิดขึ้นกับระบบการเงินของประเทศในภูมิภาคแห่งนี้
-จากมุมมองของคน ทุกประเทศที่มีสกุลเงินประจำชาติเป็นของตนเอง ในท้ายที่สุดแล้วจะต้องมี CBDCของตน เมื่อ ระบบCBDCเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น ตัวอย่างของข้อดีของ CBDCs ก็เช่น ต้นทุนค่าใช้จ่ายในการทำธุรรกรรมที่ถูก ยกระดับการเข้าถึงการชำระเงินดิจิทัลสำหรับครัวเรือนที่เข้าไม่ถึงธนาคาร เป็นอิสระไม่ต้องพึ่งพาคนกลาง ง่ายต่อบริหารจัดการ มีนโยบายทางการเงินที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และอื่นๆ อีกมากมาย ดังนั้น CBDC จะยกระดับประสิทธิภาพของระบบการชำระเงินของประเทศ
คำถาม เป้าหมายของ TomoChain ในปี 2021 คืออะไร
-สำหรับปี 2021 ที่กำลังจะมาถึง ทีมงานของเรากำลังอยู่ในระหว่างการวาดแผนงานใหม่อยู่ ซึ่งปีหน้า เราจะมุ่งเน้นไปที่การขยายระบบนิเวศน์ของผลิตภัณฑ์ของเรา และทำให้กรณีการใช้งานของ DeFi มีมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น มี stablecoin และ ฟีเจอร์การเทรดในตลาดฟิวเจอร์
ขณะเดียวกัน ปี2021 จะได้เห็นการเปิดตัว TomoP ซึ่งเป็น Privacy Suite ที่จะเป็นโปรโตคอลแบบ EVM ซึ่งสามารถทำธุรกรรมส่วนบุคคลร่วมกันภายในระยะเวลาไม่ถึง 4 วินาทีโดยไม่จำเป็นต้องผ่านคนกลางเป็นครั้งแรก ซึ่ง TomoP จะช่วยผู้ใช้งานสามารถสร้างการทำธุรกรรมที่ไม่ต้องเปิดเผยตัวตน และซ่อนมูลค่าของธุรกรรม ผู้ส่งและผู้รับได้เพื่อรักษาความลับทางการเงินของผู้ถือครอง TOMO และโทเคนบน TomoChain
ขณะที่ LuaSwap หนึ่งในผลิตภัณฑ์ของ TomoChain ที่เพิ่งจะเปิดตัวไป
บน Ethereum เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา จะมีการเปิดตัวบนTomoChainอีกครั้งในปีหน้า ด้วยข้อดีที่สามารถทำswapได้ทันทีโดยไม่มีค่าธรรมเนียมบริการเพิ่มเข้ามา
และใช่ครับ เราวางแผนที่จะทำงานกันอย่างหนักและตั้งตารอดูผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น
คำถาม คุณคาดการณ์ภาพของ TomoChain ในอีก 1-3 ปีข้างหน้าไว้ที่ใด
-ช่วงไม่กี่ปีอาจเหมือนไม่มาก แต่ก็สามรถที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหลักๆ มากมาย ด้วยการทำงานของเราในปัจจุบันที่คืบหน้า ผมเชื่อว่าอนาคตของ TomoChainย่อมสดใส ซึ่งในอนาคตอันใกล้นี้ TomoChain วางแผนที่จะเป็นทางเลือกที่น่าเชื่อถือสำหรับ Ethereum ซึ่งมาพร้อมกับโซลูชั่นส์ในการแก้ปัญหาความไม่สะดวตกต่างๆ ของ Ethereum ทั้งในด้านของความเร็วและราคาค่าใช้จ่าย ยิ่งไปกว่านั้น การสร้างระบบนิเวศน์ที่ยั่งยืนก็เป็นหนึ่งในแผนของเราเช่นกัน โดยเราได้รวบรวมนักพัฒนาและทำโปรเจ็กต์ระบบนิเวศน์บล็อกเชนให้มากขึ้น และครอบคลุมแวดวงอื่นๆ อย่างบันเทิง การศึกษา และการเงินแบบดั้งเดิม
SOURCE
https://www.supercryptonews.com/tomochains-growth-in-the-covid-19-year-an-interview-with-ceo-long-vuong/
