รายงานล่าสุดของ Opendatabot เปิดเผยว่า มีการกล่าวหาเจ้าหน้าที่สาธารณะส่วนหนึ่งของยูเครนว่าแอบครอบครองบิทคอยน์ (bitcoin) มูลค่าพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดย Opendatabot ได้รวบรวมข้อมูลจากพนักงานของรัฐ 791,872 คนโดย 652 คนตกลงที่จะเปิดเผยการถือครอง crypto ของตน
การเปิดเผยครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการรณรงค์เรียกร้องให้มีการเปิดเผยการถือครองบิทคอยน์ของเจ้าหน้าที่รัฐ โดยตัวเลขการถือครองสิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม ซึ่งพบว่า มีเจ้าหน้าที่กำลังถือครองบิทคอยน์ (BTC) ทั้งหมด 46,351 บิทคอยน์ ซึ่งในขณะนี้เขียนรายงานนี้ จำนวนดังกล่าวมีมูลค่ารวมกันมากกว่า 2,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
อย่างไรก็ตาม Bitcoin ไม่ใช่สกุลเงินดิจิทัลเพียงชนิดเดียวที่พนักงานของรัฐในยูเครนถือครองกันอยู่ โดยรายงานพบว่า เจ้าหน้าที่เหล่านี้ต่างลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ อย่าง ethereum (ETH), cardano (ADA), litecoin (LTC), stellar (XLM), bitcoin cash (BCH), IOTA, และ bitcoin gold (BTG)
ขณะที่เจ้าหน้าที่รัฐที่ถือครองเงินดิจิทัลส่วนใหญ่คือ ลูกจ้างรัฐของสภาเมือง, กระทรวงกลาโหมและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยบางรายมีข้อยกเว้นบางประการ เช่น คนทำงานในสำนักงานอัยการและสภาหมู่บ้านทั่วยูเครน
สำหรับเจ้าหน้าที่รัฐที่มีบิทคอยน์มากที่สุดในเวลานี้คือ Mishalov Vyacheslav รองสมาชิกสภาเทศบาลเมือง Dnipro โดยมีถึง 18,000 BTC ในช่วงเวลาที่ยื่นเอกสารชี้แจง
ด้าน Mykhailo Fedarov รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการปฏิรูประบบดิจิทัล แสดงความเห็นว่า การเปิดเผยดังกล่าวเป็นเรื่องดี เพราะสำหรับตนเองเป็นสัญญาณที่ชี้ให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่รัฐมีความก้าวหน้าที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ และมุ่งเน้นไปที่อนาคตในฐานะนักลงทุน
อย่างไรก็ตาม ประชาชนชาวยูเครนกลับไม่มีความสุขกับรายงานที่เผยแพร่ออกมานี้มากนัก
Sergiy Petukhov หัวหน้าแผนกบังคับตรวจสอบ กล่าวว่าสำนักงานของตนได้ทำการตรวจสอบ 250 ครั้งในปีนี้รวมถึงพนักงานของรัฐที่ถือครอง bitcoin พร้อมกล่าวต่อว่าเจ้าหน้าที่บางคนเห็นความแตกต่างบางอย่างระหว่างการยื่นชี้แจงของตนและรายงานผลของ Opendatabot
“ หากเราพบว่าข้อมูลที่ให้ไว้เกี่ยวกับการครอบครองสกุลเงินดิจิทัลไม่ถูกต้อง นี่ถือเป็นความผิดพื้นฐานสำหรับการเอาผิดทั้งทางฝ่ายปกครองและทางอาญา”
Petukhov กล่าว
ทั้งนี้ กฎหมายของยูเครนระบุอย่างชัดเจนว่า เจ้าหน้าที่รัฐของยูเครนต้องแจ้งทรัพย์สินของตนผ่านกระบวนการประกาศทางอิเล็กทรอนิกส์อย่างเป็นทางการเพื่อลดปัญหาการทุจริต