ขณะที่ Neel Kashkari ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ประจำสาขามินเนโพลิส ระบุว่า บิทคอยน์และคริปโตเคอร์เรนซี (สกุลเงินดิจิทัล) ทั้งหลายไม่มีประโยชน์อื่นใดนอกจากการให้เงินสนับสนุนกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย แต่ Tom Emmer สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ กลับคิดเห็นต่างออกไป
ประธาน Kashkari ผู้ที่คัดค้านคริปโตมาโดยตลอดให้ความเห็นว่า “95% ของคริปโตเคอร์เรนซีเป็นการการฉ้อโกง, โฆษณาโอ้อวดเกินจริง, เป็นเสียงรบกวนและเต็มไปด้วยความวุ่นวาย” ในระหว่างการเข้าร่วมประชุมสุดยอดเศรษฐกิจระดับภูมิภาคประจำปีอย่าง Pacific Northwest Economic Regional ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา” โดย Kashkari กล่าวว่า “ผมไม่เคยเห็นกรณีการใช้งานอื่นใดนอกจากการให้เงินสนับสนุนกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย เช่น ยาและการค้าประเวณี”
ทันทีที่ความเห็นดังกล่าวมีการเผยแพร่ออกไป สส.Emmer ได้กลับไปโต้ตอบความเห็นดังกล่าวผ่านเครือข่ายโซเชียลมีเดียชื่อดังอย่าง ทวิตเตอร์ โดยระบุว่า :
“อาชญากรรมคริปโตคิดเป็นสัดส่วนเพียง 0.34% ของปริมาณธุรกรรมทั้งหมดในปี 2020 น่าเสียดายที่อาชญากรรมส่วนใหญ่ยังคงดำเนินการด้วยเงินสดที่คุณพิมพ์ออกมาอยู่”
เพื่อยืนยันความเห็นดังกล่าว รายงานอาชญากรรมคริปโตในปี 2021 โดย Chainalysis ระบุชัดว่าส่วนแบ่งทางอาญาของกิจกรรมคริปโตเคอร์เรนซีทั้งหมดลดลงเหลือ 0.34% หรือ 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐจากปริมาณธุรกรรมที่เกิดขึ้นทั้งหมดในปี 2020
(กราฟฟิก : มูลค่าคริปโตเคอร์เรนซีทั้งหมดที่รับส่งโดยองค์กรอาชญากรรม
กับ ส่วนแบ่งอาชญากรรมของกิจกรรมคริปโตเคอร์เรนซีทั้งหมด)
(ที่มา : Chainalysis)
ทั้งนี้ ภายนอกอาณาเขตประเทศสหรัฐอเมริกา รายงานอีกฉบับโดย Chainalysis พบว่า ประเทศจีนยังคงรั้งอยู่ในอันดับสูงสุดสำหรับการทำธุรกรรมคริปโตที่ผิดกฎหมาย อย่างไรก็ตาม รายงานก็ยังเสริมว่าปริมาณอาชญากรรมคริปโตก็ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ