นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยฮ่องกงกล่าวว่า เทคโนโลยีบล็อกเชน และกลยุทธ์ที่ใช้ประโยชน์จากปัญญาประดิษฐ์ (AI) ควรถูกนำมาพัฒนาเพื่อให้จัดการกับภาวะโรคระบาดอย่าง ไวรัสโคโรน่า ให้ดียิ่งขึ้น
นายSyren Johnstone กรรมการบริหารคณะนิติศาสตร์ทางด้านการปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบข้อบังคับ แห่งมหาวิทยาลัยฮ่องกง ได้เผยแพร่บทความให้กับคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัย Oxford เมื่อวันที่ 5 ก.พ. โดยให้ความเห็นว่า การระบาดของไวรัสโคโรน่าถือว่าเป็น “การเตรียมพร้อมรบด้วยอุตสาหกรรมเทคโนโลยี”
บล็อกเชน ปัญญาประดิษฐ์ และตลาดเสรี
บทความของนาย Johnstone เปิดเผยว่า รูปแบบการบริจาคในปัจจุบันมีอุปสรรคจากการขาดช่องทางบริจาคที่มีประสิทธิภาพสำหรับการตอบสนองในช่วงวิกฤต เนื่องจากมีข้อจำกัดทางระบอบการปกครองและเงื่อนไขทางการเมืองของจีน โดยรัฐบาลจีนกำลังเปิดรับบริจาคผ่านองค์กรการกุศลที่สนับสนุนโดยรัฐฯ 5 แห่ง ซึ่งเป็นวิธีการที่ Johnstone มองว่ามันล้าหลังไปยังปี 2016 เหมือนก่อนที่ประเทศจะออกกฎหมายให้สิทธิ์ภาคเอกชนในการก่อตั้งองค์กรการกุศล
“เมื่อดูจากคำสั่งในการเปิดรับบริจาคแล้วเราสามารถอนุมานได้ว่า องค์กรการกุศลที่สนับสนุนโดยรัฐฯทั้ง 5 แห่งนั้นมีประสิทธิภาพและสามารถจัดการกับสภาวะวิกฤตในปัจจุบันได้ หากแต่เมื่อมองย้อนกลับถึงเหตุการณ์อื่นในอดีตแล้วมันกลับเป็นใช่เช่นนั้น ยิ่งเมื่อพิจารณาถึงผลงานการรับมือ ณ ปัจจุบันแล้ว องค์กรเหล่านี้ขาดทักษะและไม่สามารถทำหน้าที่ของพวกเขาได้เท่าที่ควรจะเป็น” นาย Johnstone เสริม
เขายังได้กล่าวอีกว่า วิธีการจัดการแบบอำนาจรวมศูนย์ของกรุงปักกิ่งทำได้แค่เพียงบรรเทาปัญหาเท่านั้น และแทนที่จะให้รัฐบาลเป็นผู้นำ อุตสาหกรรมเทคโนโลยีควรก้าวเข้ามาหาทางแก้ปัญหา โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางแก้นั้นควรจะใช้เทคโนโลยีอย่างบล็อกเชนและ AI ซึ่งมีการใช้อย่างแพร่หลายแล้วในหลายบริษัททั้ง Alibaba, SF Express และ Apple แล้วทำไมไม่นำมันมาใช้กับองค์กรการกุศลบ้างล่ะ?
บล็อกเชนจะช่วยในการติดตามและทำให้การบริจาคเป็นไปอย่างโปร่งใส ไม่ว่าการบริจาคนั้นจะเป็นเงินหรือหน้ากากอนามัย และยังทำให้ติดตามบุคคลหรือบริษัทที่ทำการรับผิดในแต่ละขั้นตอนได้จนของไปถึงมือผู้รับบริจาค นาย Johnstone ยังกล่าวอีกว่า ความโปร่งใสจะช่วยลดการทุจริตและข้อผิดพลาด ทั้งยังเพิ่มความน่าเชื่อถือให้แก่ประชาชนเพราะผู้บริจาคสามารถเข้ามาติดตามและตรวจสอบสิ่งของที่เขาบริจาคเข้ามาได้อย่างทั่วถึงมากขึ้นนั่นเอง
Jonhstone ยังชี้ให้เห็นว่าประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เคยกล่าวให้การสนับสนุนเทคโนโลยีบล็อกเชนมาก่อนหน้านี้ และบริษัทเทคโนโลยีทั่วโลกควรประสานงานกับภาคอุตสาหกรรมของจีน โดยเฉพาะปัญญาประดิษฐ์นั้นสามารถช่วยให้ความร่วมมือใดๆเป็นไปได้โดยง่าย เขายังได้สรุปว่า ทางแก้ปัญหาไวรัสโคโรน่านั้นควรจะอาศัยหลักการของรัฐบาลจีนเองที่ถูกกำหนดขึ้นในปี 2013 ว่า “ตลาดควรมีบทบาทสำคัญในการจัดสรรปันส่วนทรัพยากร โดยความพยายามปฏิรูปให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในกิจการของรัฐและการจัดตั้งรัฐวิสาหกิจ ล้วนเป็นหลักฐานที่เห็นได้ชัดว่าองค์กรที่ถูกควบคุมจากส่วนกลางเพียงอย่างเดียวไม่สามารถพัฒนาระบบการจัดการหรือสามารถแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ได้อย่างที่บริษัทเอกชนสามารถทำได้”
การริเริ่มองค์กรการกุศลบนบล็อกเชน
Image Source: Binance.com
เว็บเทรดชื่อดังอย่าง Binance ได้เปิดตัวแพลตฟอร์มการบริจาคโดยใช้บล็อกเชนไปเมื่อปี 2018 โดยมันเคยถูกใช้ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมและดินถล่มในภาคตะวันออกของประเทศยูกันดา และยังใช้สำหรับโครงการสนับสนุนผู้ป่วยระยะสุดท้าย และเด็กด้อยโอกาสในประเทศมอลตาและเกาะโกโซ โดยล่าสุดได้ถูกนำไปใช้สำหรับการช่วยเหลือบริจาคให้แก่เหตุการณ์ไฟป่าในประเทศออสเตรเลีย
ขณะที่สภากาชาดยังได้นำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาสร้างสกุลเงินเพื่อทำให้การส่งเงินช่วยเหลือเป็นไปได้ง่ายขึ้น และยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นอีกด้วย
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง: เครือข่ายบล็อกเชนทั่วประเทศของจีน BSN เตรียมเปิดตัวเดือนเมษายน 2020 นี้