เมื่อวันที่ 18 มีนาคม ที่ผ่านมา BitMEX Research ได้รายงานถึงแนวทางที่รัฐบาลจำเป็นต้องคำนึงถึงในการออกสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) และการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ
เมื่อพิจารณาถึงระบบเศรษฐกิจสมัยใหม่นั้น ปริมาณเงิน (Money Supply) จะขึ้นอยู่กับความสามารถของธนาคารและ/หรือความเต็มใจในการออกสินเชื่อ
“จากมุมมองในด้านสภาพคล่อง สถาบันการเงินรายใหญ่ที่สุดในระบบเศรษฐกิจมีความสามารถในการออกสินเชื่อใหม่ได้อย่างไม่มีข้อจำกัด เนื่องจากเงินทุนที่ยืมออกไปนั้น จะถูกนำกลับไปมาในรูปแบบของเงินฝากในบัญชีของตัวธนาคารเองอยู่ดี”
โดยข้อยกเว้นเพียงอย่างเดียวสำหรับกฎนี้ก็คือ “Physical cash” หรือ “การให้กู้ยืมเงินสด” เนื่องจากธนาคารจำเป็นต้องนำเงินสดจริงที่เก็บไว้ออกมาให้กู้ยืม
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 15 มีนาคม ที่ผ่านมา นาย Alex Mashinsky ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Celsius Network ได้กล่าวถึง Federal Reserve หรือธนาคารกลางของสหรัฐฯที่ได้ยกเลิกมาตรการดำรงสินทรัพย์สภาพคล่อง (Reserve Requirement) ที่มีมานานหลายสิบปี เพื่อป้องกันการแห่ถอนเงิน และถึงแม้ว่าธนาคารจะมีความสามารถในการสร้างปริมาณเงิน (Money Supply) แบบไม่จำกัดในทางทฤษฎี แต่ในทางปฏิบัติก็ไม่น่าจะเกิดขึ้นจริงได้
“ตามกฎใหม่ที่ออกมา ธนาคารพานิชย์สามารถไปที่ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) และยืมเงินได้มากเท่าที่พวกเขาต้องการ เพราะจากมาตรการ Permanent Repo จะมีเงินออกมาให้กู้ยืมถึง 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ แต่ตลาดกลับไม่มีสภาพคล่องเลย เพราะพวกเขาหมดความเชื่อใจกันไปแล้ว”
จากรายงานของ BitMEX ยังระบุว่า ธนาคารกลางมีสองวิธีในการออกสกุลเงินดิจิทัลของตัวเอง (CBDC) โดยพวกเขาสามารถแบนการใช้เงินสดทั้งหมด หรืออนุญาตให้ประชาชนทั่วไปทำการฝากเงินผ่านทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ไปยังธนาคารกลางได้
หากเลือกวิธีแรก มันจะลบเงินสด ซึ่งเคยเป็นข้อจำกัดด้านสภาพคล่องของธนาคาร ทำให้พวกเขาสามารถขยายสินเชื่อและสามารถสร้างเงินใหม่ได้แทบจะตามใจคิด และหากเลือกวิธีที่สอง มันช่วยช่วยให้ประชาชนออกจากระบบของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งจะส่งผลและจำกัดความสามารถของธนาคารในการออกเครดิตเป็นอย่างมาก
กล่าวง่าย ๆ คือ หากเลือกใช้วิธีแรกจะต้องเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อ และวิธีที่สองจะเผชิญกับภาวะเงินฝืด โดยทาง BitMEX Research ได้สรุปว่าธนาคารมีแนวโน้มที่จะเลือกใช้วิธีแรก
“ทางเลือกแรกนั้นดูจะเหมาะสมกับระบบเศรษฐกิจและการเมืองในปัจจุบันมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นนโยบายการเงินแบบขยายตัว การสอดส่องดูแลของรัฐ การใช้อินเทอร์เน็ต ระบบธนาคารที่มีความรัดกุม และความพยายามใจการเพิ่มอำนาจของรัฐ”
โดยเมื่อไม่นานมานี้ หมู่เกาะมาร์แชลได้ยืนยันการออกสกุลเงินดิจิทัลประจำชาติของตนเองแล้ว สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นไปได้ว่าการออก CBDC โดยธนาคารกลางจากประเทศใหญ่ ๆ กำลังใกล้เข้ามา
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง: นักเศรษฐศาสตร์ ING: ดอลลาร์สหรัฐฯต้องปรับตัว หรือยอมถูกกลืนโดยเงินดิจิทัล