ตลาดการลงทุนทั่วโลกผันผวนอย่างหนักในช่วงวันที่ผ่านมา ขณะที่ทุกฝ่ายกำลังเฝ้าจับตาดูผลการเลือกตั้งของสหรัฐอเมริกาซึ่งดูเหมือนจะใกล้ได้ข้อสรุปมากขึ้นทุกทีแล้ว
การนับคะแนนเลือกตั้งผู้นำคนใหม่ของสหรัฐฯยังคงดำเนินต่อไปเป็นวันที่สอง แต่ดูเหมือนจะเข้าสู่โค้งสุดท้ายแล้วเมื่อนาย Joe Biden ต้องการเพียงรัฐ Nevada ก็จะทำให้เขามีคะแนนเสียง Electoral Vote ครบ 270 เสียงและเพียงพอต่อการจัดตั้งรัฐบาล
ตลาดโลกเป็นสีเขียว
ตลาดการลงทุนในทรัพย์สินต่าง ๆ ทั่วโลกพร้อมใจกันปรับตัวขึ้น หลังเริ่มมีความแน่นอนแล้วว่านาย Joe Biden ตัวแทนจากพรรค Democrat มีโอกาสจะชนะศึกเลือกตั้งครั้งนี้ โดย Bitcoin (BTC) ทะยานทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบสองปีที่ 14,390 ดอลลาร์ ขณะที่ดัชนี Nasdaq พุ่งแรงกว่า 4.40% เมื่อคืนที่ผ่านมา ตามหลังมาด้วย S&P 500 และ Dow Jones ที่ปรับตัวขึ้นพร้อมเพรียงกัน
ขณะที่ตลาดหุ้นทางฝั่งเอเชียวันนี้ SET ของไทยเปิดตัวเป็นบวก พื้นตัวจากระดับต่ำกว่า 1,200 จุดได้อย่างสวยงามมาอยู่ที่ระดับ 1,240 จุดในวันนี้ ในด้านตลาดหุ้นจีน ดัชนี Shanghai Composite ก็ปรับตัวเป็นบวกเล็กน้อยมาอยู่ที่ 3,306 จุด และดัชนี Nikkei จ่อทำจุดสูงสุดใหม่ตลอดกาลแล้วที่เหนือ 24,000 จุด
ในด้านของตลาด Altcoin นั้นมีการฟื้นตัวเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่สามารถทวงคืนพื้นที่ส่วนแบ่งตลาดจากพี่ใหญ่อย่าง Bitcoin ได้ โดยล่าสุด Market Dominance ของ Bitcoin พุ่งขึ้นไปถึงระดับ 65% สูงสุดในรอบ 6 เดือน
เหรียญและโทเคนขนาดกลางและขนาดใหญ่มีการพื้นตัวตาม Bitcoin ที่ค่อนข้างน่าพอใจ โดย Ethereum (ETH) ปรับตัวขึ้นมายืนเหนือระดับ 400 ดอลลาร์ได้สำเร็จ ขณะที่ Litecoin (LTC) และ Bitcoin Cash (BCH) ปรับตัวขึ้นมากกว่า 2%
ทั้งนี้ เหรียญในตระกูล DeFi ยังคงมีแนวโน้มไม่สู้ดีนัก โดยโปรเจกต์หลัก ๆ ต่างมีมูลค่าลดลงจากจุดสูงสุดตลอดกาล 60 – 90% แต่อย่างไรก็ตาม มูลค่าสินทรัพย์ดิจิทัลที่ล็อกไว้บน DeFi หรือ TVL ยังคงยืนอยู่เหนือระดับ 11,000 ล้านดอลลาร์ แสดงให้เห็นว่านักลงทุนยังไม่ถอดใจไปจากตลาด DeFi ไปเสียทั้งหมด
อ่านเพิ่มเติม: ดอยหนักมาก!! ทำไม DeFi Token ถึงร่วงหนักกว่า 80-90% ??
ทิศทางตลาดหลังทราบผลเลือกตั้ง
สำหรับทิศทางของตลาดโลก หากนาย Biden ชนะรัฐ Nevada ซึ่งจะทำให้เราทราบผู้ชนะในวันนี้ จะส่งผลดีต่อตลาดแม้นโบายของทาง Democrat หลายอย่างจะมีผลกระทบกับการลงทุน เนื่องจากนักลงทุนเกลียดความไม่แน่นอนเหนือสิ่งอื่นใด
อย่างไรก็ตาม แม้นาย Biden จะชนะในรัฐ Nevada และได้คะแนนเสียงครบ 270 เสียงก่อน แต่ดูทีท่าแล้วเหมือนนาย Donald Trump จะไม่ยอมง่าย ๆ ซึ่งคาดว่าจะขอให้มีการนับคะแนนใหม่และอาจจะต้องไปจบในชั้นศาลเนื่องจากประธานาธิบดีคนปัจจุบันไม่เห็นด้วยกันการโหวตผ่านทางไปรษณีย์ที่เขาอ้างว่า “มันมีช่องให้เกิดการทุจริตและจะไม่ยอมรับผลโหวตทางไปรษณีย์อย่างแน่นอน”
แต่ถ้าหากนาย Donald Trump ผลิกโผกลับมาชนะในรัฐ Nevada เราอาจจะต้องรอผลคะแนนจากรัฐ Pennsylvania ซึ่งอาจกินเวลาหลายวันไปจนถึงเป็นอาทิตย์เนื่องจากความล่าช้าในการนับคะแนนที่มาจากการโหวตผ่านไปรษณีย์ ในช่วงระหว่างการรอผลเราจึงอาจเห็นความผันผวนของตลาดกลับมาอีกครั้งหนึ่งจนกว่าจะได้ข้อสรุปแน่นอน
เราจึงต้องทำการติดตามผลการเลือกตั้งสหรัฐฯในครั้งนี้กันต่อไป โดยไม่ว่าใครจะได้ขึ้นมาเป็นผู้นำ ย่อมจะมีผลต่อภูมิศาสตร์การเมืองและทิศทางของเศรษฐกิจโลกในช่วง 4 ปีนับจากนี้ไปอย่างแน่นอน
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง: Bitcoin และตลาดหุ้นร่วงเล็กน้อยหลัง Trump ขู่ฟ้องศาลเรื่องการนับคะแนน