องค์การอวกาศยุโรป (ESA) ซึ่งเป็นองค์กรนานาชาติที่มีเป้าหมายเพื่อการสำรวจอวกาศ กำลังระดมทุนในโครงการ บล็อกเชน เพื่อใช้กับการส่งเสริมอุตสาหกรรมเหมืองแร่ของโลก
ESA ผู้ให้การสนับสนุนด้านการใช้งานเทคโนโลยีบล็อกเชนได้ร่วมทุนในโครงการ Hypervine ซึ่งเป็นธุรกิจสตาร์ทอัพสัญชาติสก็อตแลนด์ เพื่อปรับปรุงความโปร่งใสของข้อมูลสำหรับอุตสาหกรรมเหมืองแร่ด้วยการใช้ข้อมูลจากดาวเทียมและบล็อกเชนมาผสานกัน จากการรายงานของสำนักข่าวด้านน้ำมันและก๊าซ Oil & Gas Middle East
การป้องกันอุบัติเหตุร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้นในงานขุดเจาะเหมือง
โครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อป้องกันความผิดพลาดจากการคำนวนอันอาจนำไปสู่อุบัติเหตุร้ายแรงที่เป็นอันตรายถึงชีวิตในอุตสาหกรรมการทำเหมือง ด้วยการจัดทำฐานข้อมูลการทำเหมืองที่มีความเป็นเอกภาพและน่าเชื่อถือสูง โครงการนี้ใช้เทคโนโลยีของ Hypervine ซึ่งจะช่วยให้ทีมงานขุดเหมืองและบริษัทในเครือสามารถบันทึกข้อมูลได้อย่างชัดเจนบนบัญชีที่ไม่สามารถทำการแก้ไขข้อมูลได้ การทำเช่นนี้จะช่วยลดความเสี่ยงที่เกิดจากความผิดพลาดของข้อมูลเล็กๆน้อยๆที่อาจนำไปสู่เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดได้
โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อบันทึกข้อมูลจากดาวเทียมบนฐานข้อมูลแบบกระจายศูนย์ (DLT) เพื่อให้บริษัทเหมืองแร่มีแหล่งข้อมูลที่ตรงกันและเชื่อถือได้แทนการใช้กระดาษซึ่งต้องใช้ฝ่ายของแต่ละไซต์งานในการคอยตรวจสอบ เนื่องจากบริษัทขุดเจาะอาจใช้เวลาหลายเดือนจัดทำข้อมูลที่ถูกต้องจากแหล่งข้อมูลย่อยจำนวนมาก โครงการฐานข้อมูลดาวเทียมที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชนจึงถูกสร้างขึ้นมาเพื่อลดต้นทุนของอุตสาหกรรมเหมืองแร่นั่นเอง
ผลดีต่อสิ่งแวดล้อม
นอกเหนือจากการเพิ่มความแม่นยำและลดความผิดพลาดของมนุษย์อันก่อให้เกิดความเสี่ยงหลายประการ โครงการนี้ยังช่วยรักษาสภาพแวดล้อมด้วยการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนเนื่องจากการปฏิบัติงานนั้นมีประสิทธิภาพสูงขึ้น
นางสาว Beatrice Barresi เจ้าหน้าที่ด้านเทคนิคของ ESA Space Solutions ระบุว่า ขณะนี้มีการลงทุนเพิ่มขึ้นในการใช้ข้อมูลจากดาวเทียมมาช่วยในงานอุตสาหกรรมเหมืองแร่ ขณะที่การริเริ่มนำเทคโนโลยีอย่างบล็อกเชนมาใช้น่าจะให้ผลลัพธ์บวกในแง่ธุรกิจ โดยนางสาว Barresi กล่าวเพิ่มเติมว่า
“มันเป็นเป้าหมายหลักของเราในการสร้างอุตสาหกรรมขุดเจาะเหมืองที่ปลอดภัยมากขึ้น มีมลพิษน้อยลง และมีความรับผิดชอบต่อสังคมมากขึ้น การทำงานร่วมกับบริษัทต่าง ๆ อย่าง Hypervine นั้นช่วยให้เราสามารถบรรลุเป้าหมายเหล่านี้ได้สำเร็จ พร้อมทั้งยังช่วยปรับปรุงมาตรฐานในหลายอุตสาหกรรมไปด้วย การทำงานในโครงการนี้กับ Hypervine เป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมมาก และเราตั้งตารอที่จะพัฒนาไปสู่ขั้นถัดไป”
ESA ได้ให้ความสนใจกับเทคโนโลยีบล็อกเชนควบคู่ไปกับการวิจัยด้านอวกาศ โดยในเดือนกันยายน ปี 2019 ทาง ESA ให้เงินสนับสนุนสตาร์ทอัพด้านบล็อกเชน บริษัท SpaceChain เป็นมูลค่ากว่า 66,000 ดอลลาร์สหรัฐเพื่อพัฒนา Multi-signature Wallet สำหรับดาวเทียมเพื่อใช้ในเชิงพาณิชย์ และก่อนหน้านี้ ESA ได้ออก white-paper เกี่ยวกับแผนงานในอนาคตในการใช้งานบล็อคเชนเพื่อการสังเกตการณ์และสำรวจปฐพีอีกด้วย
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง: Chiliz จับมือ Lagardère Sports นำบล็อกเชนบุกวงการกีฬาอเมริกา
