ฟองสบู่หุ้นหุ้นเทคโนโลยีกับโอกาสของบิทคอยน์

หุ้นเทคโนโลยี เป็นสินทรัพย์ที่สร้างผลตอบแทนได้อย่างดีสำหรับนักลงทุนสายคอนเซอร์เวทีพ หุ้นที่ผลักดันดัชนี S&P500 อย่างกลุ่ม FAANG สามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างไม่น่าเชื่อ ขณะที่หุ้น TESLA ของ Elon Musk สร้างผลตอบแทนในปีนี้ไปแล้ว 390% แต่แลกมาด้วยค่า P/E ที่ทะลุ 850 เท่า

หุ้น APPLE มีมูลค่าตลาดแตะระดับ 2ล้านล้านดอลลาร์ เป็นครั้งแรก รวมถึงความมั่งคั่งของ Jeff Bezos ที่ฉีกหนีขึ้นไปเรื่อยๆ สิ่งเหล่านี้สะท้อนมาจากขาขึ้นรอบใหญ่ของ หุ้นเทคโนโลยี ท่ามกลางวิกฤตไวรัสโควิด

อย่างไรก็ตาม Yahoo Finance เพิ่งจะเปิดเผยข้อมูลที่บ่งบอกว่าหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอาจจะเข้าสู่ภาวะฟองสบู่ โดย Wilshire 5000 Index หารด้วยจีดีพีสหรัฐฯพุ่งแตะระดับ 1.7 ซึ่งเป็นระดับเดียวกับ Internet Bubble

ขณะที่หากนำมูลค่ารวมของตลาดหุ้นสหรัฐฯเทียบต่อจีดีพีรวมของประเทศ (Buffet Indicator) พุ่งแตะระดับ 64% ซึ่งหากวัดจากสถิติในอดีตนี่คือระดับสูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตและใกล้แตะระดับ 71% ซึ่งเป็นจุดสูงสุดในช่วงฟองสบู่ของหุ้นเทคโนโลยีในปี 2000

อย่างไรก็ตามเม็ดเงินจำนวนมหาศาลที่ถูกพิมพ์ออกมาน่าจะถูกใช้ประคองตลาดหุ้นสหรัฐฯเอาไว้ได้แม้ราคาหุ้นจะแพงขึ้นไปเรื่อยๆก็ตาม ฟองสบู่อาจยังไม่แตกในเร็วๆนี้ อย่างไรก็ตามหากเม็ดเงินถูกย้ายออกจากหุ้นกลุ่มนี้ เป้าหมายอันดับต้นๆของนักลงทุนน่าจะพุ่งเป้ามาที่ทองคำ

บิทคอยน์ มีโอกาสสูงที่จะได้รับประโยชน์จากเม็ดเงินที่หากมีการย้ายออกจากหุ้นเทคโนโลยีจากการที่ค่าความสัมพันธ์กับดัชนี S&P500 ที่ลดลงแต่ค่าความสัมพันธ์กับทองคำที่เพิ่มขึ้น ตลอดจนนักลงทุนสถาบันที่ให้ความสนใจที่จะลงทุนในบิทคอยน์มากขึ้น เราน่าจะได้เห็นการสร้างจุดสูงสุดใหม่ของบิทคอยน์ได้ทีเดียว

บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง : เงินในหลายประเทศด้อยค่าบิทคอยน์ท็อปฟอร์มโชว์ศักยภาพต้านเงินเฟ้อ

แนวโน้มทางเทคนิค BTC

การ Breakout ในวันที่ 21กรกฎาคม ในเชิงเทคนิคถือเป็นการเกิด Golden Cross ของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ EMA9,25 และ 50 วัน นับตั้งแต่วันนั้นตลอดเดือนกว่าๆแนวโน้มของบิทคอยน์เป็นขาขึ้นภายใต้เส้นค่าเฉลี่ยดังกล่าว

ระยะสั้นเส้น EMA25 ยังสามารถประคองอยู่ที่ระดับประมาณ 11,500 ดอลลาร์ หากรับไม่อยู่ยังมีแนวรับต่อไปที่ EMA50 ทั้งนี้บิทคอยน์ไม่ควรจะลงไปต่ำกว่าจุดสูงสุดเก่าของปีนี้ที่ Breakout ขึ้นมาได้ที่ 10,500 ดอลลาร์

แนวต้านสำคัญของบิทคอยน์ยังเป็นที่จุดสูงสุดเดิมที่ระดับประมาณ 12,500 ดอลลาร์ หากผ่านไปได้ค่อยมองถึงเป้าหมายที่ไกลกว่านั้น

บทความที่เกี่ยวข้อง : บิทคอยน์ขึ้นเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าตลาดมากที่สุดเป็นอันดับ 25 ของโลก!

ขณะที่ดัชนี SCN30 Index ยังคงปรับฐานลงมาจากจุดสูงสุดที่ 276.10 ดอลลาร์ อยู่ที่ระดับ 247.73 จุด โฟกัสของนักลงทุนยังอยู่ที่ Chainlink ที่แม้ราคาจะปรับฐานลงมาจากจุดสูงสุดที่ 20 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ระดับ 15 ดอลลาร์ แต่อันดับใน Ranking ยังคงอยู่ในอันดับสามเช่นเดิม