- รัฐบาลกรุงปักกิ่งเตรียมที่จะเปิดทางยินยอมให้การเปิดเผยข้อมูลการตรวจสอบของจีนในความพยายามที่จะเคลียร์ทางตันที่อาจคุกคามการจดทะเบียนอย่างต่อเนื่องของหุ้นกว่า 2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐในบริษัทจีนที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ
- เห็นได้ชัดว่า รัฐบาลจีนค่อนข้างให้ความระมัดระวังที่จะอนุญาตให้หน่วยงานกำกับดูแลต่างประเทศดำดิ่งลงในบัญชีและเอกสารของบริษัท โดยอ้างว่ามีความเสี่ยง เช่น การเข้าถึงทรัพย์สินทางปัญญาที่ละเอียดอ่อน ความกังวลที่ใหญ่กว่านั้นอาจอยู่ภายใต้ “ความมั่นคงของชาติ”
ด้วยเศรษฐกิจที่ชะลอตัวอย่างรวดเร็วและประธานาธิบดีที่ต้องการรักษาตำแหน่งที่ 3 อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน สิ่งสุดท้ายที่ปักกิ่งต้องการในขณะนี้คือการเพิกถอนหุ้นมูลค่า 2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐในตลาดหุ้นอเมริกัน
ซึ่งอาจเป็นคำอธิบายได้ว่าเหตุใดรัฐบาลกรุงปักกิ่งจึงเตรียมที่จะยอมเปิดเผยข้อมูลการตรวจสอบของจีนในความพยายามที่จะขจัดทางตันที่อาจคุกคามการจดทะเบียนอย่างต่อเนื่องของหุ้นกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ในบริษัทจีนที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ
ทั้งนี้ หนึ่งสัปดาห์หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC) ขู่ว่าจะเพิกถอนบริษัทจีนบางแห่งออกจากตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ ปักกิ่งวางแผนที่จะให้ข้อมูลการตรวจสอบบางส่วนแก่หน่วยงานกำกับดูแลด้านการบัญชีของสหรัฐฯ
เห็นได้ชัดว่า รัฐบาลจีนค่อนข้างให้ความระมัดระวังที่จะอนุญาตให้หน่วยงานกำกับดูแลต่างประเทศดำดิ่งลงในบัญชีและเอกสารของบริษัท โดยอ้างว่ามีความเสี่ยง เช่น การเข้าถึงทรัพย์สินทางปัญญาที่ละเอียดอ่อน ความกังวลที่ใหญ่กว่านั้นอาจอยู่ภายใต้ “ความมั่นคงของชาติ”
การเจาะลึกเข้าไปในการทำงานภายในของบริษัทจีนของรัฐหลายแห่งที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ และแม้แต่บริษัทที่เป็นของเอกชน อาจก่อให้เกิดธุรกรรมและความสัมพันธ์ที่อาจไม่สะดวกต่อสาธารณะสำหรับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนหลายคน
ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลจีนจึงกำลังเสนอระบบในทางปฏิบัติที่จะกำหนดให้บริษัทต่างๆ ต้องตรวจสอบกับทางการก่อนที่จะให้ข้อมูลการตรวจสอบทางการเงินแก่หน่วยงานกำกับดูแลจากต่างประเทศ ซึ่งจะทำให้เป็นแนวทางที่เป็นไปได้ และในครั้งแรกที่จีนจะเปิดเผยข้อมูลทางการเงินของบริษัทต่างๆ นอกพรมแดนจีน
จีนค่อนข้างเข้มงวดกับบริษัทต่างๆ มานานแล้ว แม้ว่าจะจดทะเบียนในต่างประเทศก็ตาม โดยห้ามไม่ให้เข้าถึงไฟล์และเอกสารอื่นๆ เพื่อวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบ แต่ก็ขัดแย้งกับกฎหมายว่าด้วยการถือครองหุ้นบริษัทต่างชาติของสหรัฐฯ ในยุคอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ ที่อนุมัติผ่านในปี 2020 โดยกำหนดให้ Accounting Company Accounting Oversight Board ตรวจสอบบริษัทจีนและฮ่องกง
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว SEC ได้ยื่นคำขาดให้บริษัทจีน 5 แห่งปฏิบัติตามคำขอตรวจสอบภายใน 3 ปีข้างหน้าหรือเผชิญกับการขับออกจากการแลกเปลี่ยนในนิวยอร์ก
แต่ยังคงต้องจับตาดูว่าทางรัฐบาลกรุงวอชิงตันจะยอมรับข้อเสนอโต้แย้งของปักกิ่งในการส่งบริษัทของตนเข้ารับการตรวจสอบหรือไม่ โดยมี “ลักษณะเฉพาะของจีน” เกี่ยวกับลักษณะของการตรวจสอบดังกล่าว
ด้วยความที่เศรษฐกิจจีนกำลังเผชิญสารพัดปัญหาใหญ่ ทั้งต้นทุนสินค้าโภคภัณฑ์และพลังงานที่พุ่งสูงขึ้นจนส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค ไปจนถึงการล็อกดาวน์จากการระบาดใหญ่ที่ไม่คาดคิด ทำให้อารมณ์ความรู้สึกแย่ลง สิ่งสุดท้ายที่จีนต้องการก็คือคลื่นของการเพิกถอนบริษัทต่างๆ ออกจากการเข้าถึงตลาดทุนต่างประเทศและนักลงทุนทั่วโลก
ทั้งนี้ หลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน และเจ้าหน้าที่เศรษฐกิจระดับสูงของจีน ให้ความมั่นใจแก่นักลงทุนในสัปดาห์นี้ว่าปักกิ่งจะใช้มาตรการสนับสนุนเศรษฐกิจและตลาดการเงิน หลังจากการเทขายออกอย่างรุนแรงในตลาดหุ้นจีนได้รับผลกระทบจากการรุกรานยูเครนของรัสเซีย
การต่อต้านอย่างแข็งขันของจีนในการประณามการรุกรานของรัสเซียและประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนที่เห็นได้ชัดว่าความสัมพันธ์ใกล้ชิดของเขากับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าก็ส่งผลต่อความรู้สึกและความต้องการหุ้นจีนเช่นกัน