กูรูชั้นนำในสหรัฐฯ ร่วมวิเคราะห์ผลกระทบจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ของโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ โดยมองว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของไบเดนจะยิ่งทำให้ตลาดคริปโตร้อนแรงมากขึ้น
ทั้งนี้ ไม่อาจปฎิเสธได้ว่า การเลือกตั้งทั่วไปของสหรัฐฯ ในเดือนพ.ย. ปี 2020 ได้รับการจับตามองจากหลายฝ่ายอย่างใกล้ชิด รวมถึงมึความพยายามของนักลงทุนและผู้เชี่ยวชาญในตลาดการเงินทั้งแบบดั้งเดิมและแบบดิจิทัล ถึงความเป็นไปได้ของผลลัพธ์ต่างๆ หลังการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยเฉพาะหลังจากที่ทราบผลว่า ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนที่ 46 คือนายโจ ไบเดน บรรดานักวิเคราะห์การเมืองและนโยบายการเงินต่างก็พยายามมองแนวทางการบริหารงานของนายไบเดน เพื่อคาดการณ์ความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นกับอุตสาหกรรมคริปโต
หลายฝ่ายเห็นตรงกันว่า นโยบายที่จะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมคริปโตแรกสุดก็คือมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯชุดใหญ่มูลค่า 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ด้วยการปรับโครงสร้างภาษีและสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่เรียกว่า ‘Build Back Better’ซึ่งจะทำให้พลเรือนสหรัฐฯได้รับผลประโยชน์จากการกระตุ้นครั้งนี้เฉลี่ย 2,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อคน
ขณะเดียวกัน นอกจากเดินหน้าอัดฉีดเงินดอลลาร์เข้าระบบแบบจัดหนักแล้ว ไบเดนยังมีแนวโน้มจะจัดแผนกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาอีกชุดใหญ่ เพื่อกระตุ้นการสร้างงานหลังมีรายงานว่าตำแหน่งงานว่างในสหรัฐฯในเดือนธ.ค. ที่ผ่านมาลดหายไปอีก 140,000 ตำแหน่ง ทำให้ชาวอเมริกันในเวลานี้จำเป็นต้องได้รับเงินช่วยเหลือโดยตรงที่มากกว่าเงินบรรเทาช่วยเหลือปกติตามมาตรฐานซึ่งอยู่ที่ 600 ดอลลาร์สหรัฐ
ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ กล่าวว่า การวิจัยทางเศรษฐกิจยืนยันชัดแล้วว่า สถานการณ์วิกฤตในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภายใต้เงื่่อนไขที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำมากๆ การปฎิบัติการ ที่แม้จะทำให้งบขาดดุลมากขึ้น ถือเป็นการช่วยเหลือเศรษฐกิจทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ลดความหวาดกลัวที่เกิดขึ้นในหมู่แรงงาน เพิ่มการขยายตัวเติบโต และลดภาระหนี้ของประเทศได้
นักวิเคราะห์มองว่า ข้อดีของการเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจอย่างกระตือรือล้นของร้ฐบาลจะช่วยเหลือพลเรือนสหรัฐฯ ที่จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลืออยได้อย่างดี แต่การพิมพ์เงินอัดฉีดเข้าระบบชุดใหญ่อย่างต่อเนื่องจะทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงต่อไป เหมือนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะยิ่งทำให้ราคาสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างบิทคอยน์ขยายตัวเติบโตมากขึ้นทั้งในแง่ของราคาและปริมาณความต้องการ
สำหรับครั้งนี้ การที่เงินดอลลาร์ยังมีแนวโน้มอ่อนค่าต่อไปในระยะยาว จะทำให้นักลงทุนหันหน้าจัดงบลงทุนไปยัง “ทองคำดิจิทัล” มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อตลาดคริปโตกำลังอยู่ในช่วงชาขึ้นเกินความคาดหมาย และแม้ว่าขณะนี้ ราคาของบิทคอยน์จะลดความร้อนแรงลงแล้ว แต่ราคาของบิทคอยน์ในรอบสัปดาห์นี้ก็ยังมีการขยับปรับขึ้นเล็กน้อย 4% และที่สำคัญกว่านั้น การที่บิทคอยน์ทำสถิติราคาสูงสุดต่อเนื่อง 6 สัปดาห์ ได้ทำให้นักลงทุนเกิดความเชื่อมั่นในการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลตัวนี้เพิ่มขึ้นแล้ว
SOURCE
https://www.supercryptonews.com/heres-how-joe-bidens-3-trillion-stimulus-package-will-impact-the-crypto-market/
