รูปแบบของผลตอบแทนที่เราจะได้เมื่อลงทุนใน สินทรัพย์ดิจิทัล มีอะไรบ้าง? มันแตกต่างจากสินทรัพย์ทั่วไปอย่างไร?
ในตอนนี้น้องตันหยงจะมาอธิบายผลตอบแทนที่เราอาจจะได้รับจากการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งสามประเภท โดยประกอบไปด้วย 1. Capital Gain หรือกำไรจากส่วนต่างของราคา 2. ดอกเบี้ยจากการปล่อยกู้ทั้งสำหรับการเทรดแบบมาร์จิ้นและระบบการเงินแบบกระจายศูนย์หรือ DeFi 3. ผลตอบแทนจากการทำ Staking เพื่อดูแลระบบของเงินดิจิทัล
ปรกติแล้วเมื่อเราทำการลงทุน เราก็ต้องหวังผลตอบแทน แต่เมื่อเจ้าสินทรัพย์ดิจิทัลเหล่านี้มันต่างจากสินทรัพย์ยุคก่อน แล้วตัวผลตอบแทนมันจะเหมือนกันหรือเปล่า วันนี้เรามาอธิบายรูปแบบผลตอบแทน สั้น ๆ ง่าย ๆ โดยจะแบ่งเป็นสามประเภทคือ
- Capital gain หรือกำไรจากส่วนต่างราคา
อันนี้เข้าใจได้ง่ายมาก ๆ เหมือนพื้นฐานของสินทรัพย์อื่นทั่วไปเลย ที่เราต้องการจะซื้อถูก และขายแพง อย่างเช่นเราซื้อมา 10 บาท แล้วขาย 15 บาท ส่วนต่าง 5 บาทก็คือกำไรจากส่วนต่างหรือ capital gain นั่นเอง โดยปัจจัยที่ทำให้ราคาของสินทรัพย์นั้นเพิ่มขึ้นก็มีทั้งปัจจัยทางพื้นฐาน ทางเทคนิค และสภาวะอารมณ์ของตลาด นั่นเอง
- ดอกเบี้ยจากการปล่อยกู้
โดยดอกเบี้ยจากการปล่อยกู้นี้สามารถแบ่งได้สองประเภทย่อย
อย่างแรกคือ ดอกเบี้ยที่ได้จากการฝากเงินดิจิทัลของเราได้บนเว็บแลกเปลี่ยนซื้อขายเงินดิจิทัล หรือ Exchange แล้ว Exchange จะนำเงินของเราไปปล่อยกู้ให้แก่ลูกค้าคนอื่นทำการกู้ยืมไปซื้อขายแบบ Margin Trading โดยทาง Exchange จะเป็นผู้ดูแลและให้ส่วนแบ่งค่าธรรมเนียมในการกู้ยืมนั้นกลับมาเป็นดอกเบี้ยให้กับเรานั่นเอง
อย่างที่สอง คือการนำมาใช้ปล่อยกู้ให้กับระบบการเงินแบบกระจายศูนย์ หรือ DeFi โดยเจ้า DeFi นี้จะทำหน้าที่เป็นเหมือนธนาคาร ที่ไม่มีตัวกลางควบคุม ให้ผู้ใช้บริการสามารถมาทำการกู้เงิน โดยใช้เงินค้ำประกันเป็นเงินดิจิทัล แล้วสามารถกู้ยืมเงินดิจิทัลสกุลเงินอื่น ๆ Stablecoin หรือแม้แต่เงิน Fiat เพื่อนำไปใช้จ่าย หรือทำธุรกิจต่าง ๆ ได้เหมือนเวลาเราไปขอกู้เงินจากธนาคารทั่วไป โดยระบบ DeFi นี้ก็จะนำเงินของผู้ที่ฝากไว้ไปปล่อยกู้ แล้วแบ่งผลตอบแทนให้เราในรูปแบบของดอกเบี้ยเงินกู้นั่นเอง
ทำความรู้จัก Defi เพิ่มเติมได้ที่บทความ Decentralized Finance เทคโนโลยีที่จะมาแทนที่ธนาคาร?
สุดท้ายคือ ผลตอบแทนจากการทำ Staking
การทำ Staking นั้นอธิบายง่าย ๆ ก็คือการนำเงินดิจิทัลของเรามาเป็นเงินค้ำประกัน เพื่อที่จะมีสิทธิ์ทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลระบบบล็อกเชนของเงินดิจิทัลที่ใช้ระบบที่เรียกว่า Proof-of-Stake โดยจะได้รับผลตอบแทนเป็นเหรียญคริปโตเคอเรนซี่นั้น ๆ แต่ถ้าหากเราบกพร่องละเลยหน้าที่ หรือทำการทุจริตในการดูแลระบบแล้วล่ะก็ ทางระบบจะทำการยึดเงินที่เราวางไว้เพื่อเป็นการลงโทษ
โดยการเข้าไปมีส่วนได้ส่วนเสียกับระบบเช่นนี้ จะส่งผลให้ผู้ที่จะเข้ามาเป็นคนตรวจสอบระบบ ต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เพื่อที่จะได้รับเงินรางวัลเป็นค่าตอบแทนจากการดูแลระบบและไม่สูญเสียเงินค้ำประกันที่วางไว้ไปนั่นเอง
ถ้าคุณยังไม่ได้ดูวีดีโอตอนแรกซึ่งเราอธิบายถึงพื้นฐานของ สินทรัพย์ดิจิทัล สามารถตามไปชมได้ที่นี่เลย
ถ้าชอบวีดีโอนี้ อย่าลืม Subscribe ให้กับช่องยูทูปของเราเพื่อติดตามวีดีโอใหม่ ๆ ได้ทุกสัปดาห์ได้ที่นี่