กรมตำรวจของสิงคโปร์รายงานว่า ได้ทำการจับกุมหญิงสาววัย 23 ปีที่เปิดให้บริการซื้อขายโทเคนดิจิทัลโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ซึ่งการจับกุมครั้งนี้ถือเป็นการจับกุมครั้งแรกตามความผิดในพระราชบัญญัติบริการการชำระเงินที่เพิ่งได้รับการปรับปรุงโดยเพิ่มเนื้อหาเกี่ยวกับคริปโตเคอเรนซี่เข้ามา
เธอยังถูกกล่าวหาว่าได้รับโอนเงินจำนวน 13 ครั้งที่เข้าข่ายเป็นการฉ้อโกงมูลค่ากว่า 3,350 ดอลลาร์สิงคโปร์ ซึ่งต่อมาเธอได้นำไปใช้ซื้อบิทคอยน์ โดยตำรวจได้ให้การณ์ว่า ธุรกรรมดังกล่าวมาจากการฉ้อโกงโเงินมาจากผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของการลอกลวงออนไลน์
พระราชบัญญัติบริการการชำระเงิน ฉบับใหม่ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนมกราคมปีนี้จะเข้ามากำกับดูแลการชำระเงินด้วยคริปโตรวมถึงกำกับดูแลผู้ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้อง โดยกฎหมายได้บังคับให้มีการขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตก่อนที่สามารถเริ่มให้บริการชำระเงินต่าง ๆ รวมถึงการซื้อขายเงินดิจิทัลอีกด้วย
โดยกฎหมายฉบับดังกล่าวมีความแตกต่างจากของสหรัฐอเมริกา ซึ่งหน่วยงานกำกับดูแลการเงินสิงคโปร์หรือ MAS ไม่ได้แบ่งแยกประเภทของคริปโตว่าเป็นประเภท Payment Token, Utility Token หรือ Security Token หากแต่จัดหมวดหมู่ทั้งหมดให้อยู่ภายใต้การชำระเงินแบบดิจิทัล
นอกจากนี้ สิงคโปร์ถูกพบว่าเป็นประเทศที่มีการโจรกรรมทางด้านคริปโต (Cryptojacking) สูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ อันมีผลมาจากการที่ประชาชนเปิดรับเงินดิจิทัลมากขึ้น รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานส่วนใหญ่เอื้อต่อการทำธุรกรรมกิจดัลนั่นเอง
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง : ธนาคารกลางสิงคโปร์เล็งพัฒนาและศึกษา CBDC ร่วมกับธนาคารกลางของจีน