ระหว่างการรับฟังคำชี้แจงของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ กับแผนรับมือการระบาดครั้งใหญ่ของไวรัสโควิด-19 ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ได้แสดงจุดยืนของสหรัฐฯ อย่างชัดเจนว่า ไม่มีแผนที่จะแบนหรือห้ามการใช้บิทคอยน์และสกุลเงินดิจิทัลอื่นในสหรัฐฯ แต่อย่างใด
ความเห็นดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่ เทด บัดด์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เอ่ยปากถามพาวเวลล์เกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อในประเทศ ซึ่งประธานเฟดได้ตอบด้วยการเลี่ยงประเด็นและระบุว่าอัตราเงินเฟ้อเกิดจากวิกฤตห่วงโซ่อุปทานที่เกิดขึ้นซ้ำๆ ซึ่งเกิดจากการตอบสนองต่อการระบาดใหญ่ของไวรัสโควิด-19ของรัฐบาล
ขณะเดียวกัน พาวเวลล์ยังกล่าวอีกว่า เฟดไม่มีอำนาจในการต่อต้านเงินเฟ้อและการบรรเทาทุกข์ดังกล่าวจะมาถึง ซึ่งบ่งชี้ว่าควรลดอัตราเงินเฟ้อในช่วงครึ่งแรกของปี 2022
ทั้งนี้ สส.บัดด์ ได้กล่าวถึงความคิดเห็นในอดีตของ Powell เกี่ยวกับ CBDC (สกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง) และผลกระทบต่อเหรียญที่มีเสถียรภาพและ cryptocurrencies อื่น ๆ ในการพิจารณาคดีในเดือนกรกฎาคม และยังกล่าวถึงความคิดเห็นก่อนหน้าของพาวเวลล์เกี่ยวกับการที่เหรียญและคริปโตเคอร์เรนซีไม่มีความจำเป็นเมื่อมีสกุลเงินดิจิทัลของสหรัฐฯ ซึ่งบัดด์ได้ถามพาวเวลล์ว่าเจตนาของเขาที่จะห้ามหรือจำกัดการใช้คริปโตเคอร์เรนซีเช่นจีน
พาวเวลล์ตอบปฎิเสธ และว่าตนเองคงพูดผิดไปในตอนนั้น จากนั้นก็บอกว่าควรนำเหรียญที่มีเสถียรภาพมาใช้ในกรอบการกำกับดูแล
นักบิทคอยน์จำนวนไม่น้อยต่างรู้สึกโกรธเคืองจากการแลกเปลี่ยนนี้ในการประชุมสภาคองเกรส เนื่องจากเฟดแสดงให้เห็นถึงการขาดความเข้าใจเกี่ยวกับความแตกต่างระหว่างบิทคอยน์ กับ คริปโตเคอร์เรนซี
เหล่านักบิทคอยน์และนักการเมืองควรใช้เวลาเรียนรู้เพิ่มเติมเพื่อให้เข้าใจว่าผลประโยชน์ของตนอยู่ที่ใด จากนั้นจึงจะสามารถตัดสินใจเกี่ยวกับกฎระเบียบของบิทคอยน์ได้อย่างชาญฉลาด