เมื่อเร็ว ๆ นี้ ประเด็นเกี่ยวกับคริปโตเคอร์เรนซีได้เข้าไปพัวพันกับร่างกฎหมายโครงสร้างพื้นฐานมูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ของวุฒิสภาสหรัฐฯ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อจัดสรรงบสำหรับซ่อมแซมถนนและสะพานที่ผุกร่อน และให้ทุนสนับสนุนโครงการบรอดแบนด์ และอื่นๆ
โดยการแก้ไขบทบัญญัติภาษีคริปโตในนาทีสุดท้ายได้รับการแก้ไขในร่างกฎหมายเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากชุมชน คริปโต เนื่องจากมองว่าคำสั่งนี้เป็นการต่อต้านนวัตกรรมและยังคงคลุมเครือ ไม่ชัดเจน
การเปลี่ยนแปลงร่างกฎหมายดังกล่าวมีดังต่อไปนี้ คือ
- คำจำกัดความของ “โบรกเกอร์” ที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันจะหมายถึง 2 สิ่ง คือ การแลกเปลี่ยนคริปโตของสหรัฐฯ จะอยู่ภายใต้หมวดหมู่ของ “โบรกเกอร์” และข้อกำหนดในการรายงานสำหรับโบรกเกอร์แบบดั้งเดิมจะขยายเกิน 1099 เท่านั้น
- แม้ว่า Brian Armstrong ซีอีโอของ Coinbase จะยอมรับว่าการรายงานภาษีมีความสำคัญ แต่เขาชี้ให้เห็นถึงข้อบกพร่องของบทบัญญัติดังกล่าว กล่าวคือเขากล่าวว่าผู้บังคับใช้กฎหมายจะกำหนดภาษีให้กับทุกคนในระบบนิเวศของคริปโตอย่างไร้เหตุผล โดย Armstrong ยังกล่าวอีกว่าข้อกำหนดในการรายงานบังคับให้การแลกเปลี่ยนเพื่อสอดส่องธุรกรรมของผู้ใช้ ทำให้เป็นการล่วงล้ำมากกว่าการเงินแบบเดิม
- สำนักงานวุฒิสภาเริ่มรับสายและอีเมลจำนวนมากจากผู้ใช้คริปโต ซึ่งจดหมายประท้วงการเปลี่ยนแปลงกะทันหันมีผู้ร่วมลงนามกว่า 120 ราย ซึ่งรวมถึงผู้ลงนามจากองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรและบริษัทแต่ละแห่ง ขณะที่ กลุ่มการเมืองเช่น Electronic Frontier Foundation และ Americans for Tax Reform ก็วิพากษ์วิจารณ์กฎหมายในนาทีสุดท้ายนี้ด้วย
- วุฒิสมาชิก Cynthia Lummis, Ron Wyden และ Pat Toomey เสนอการแก้ไขเพื่อปรับแต่งคำจำกัดความของ “โบรกเกอร์” สิ่งนี้ยกเว้นนักพัฒนาโปรโตคอล ผู้ตรวจสอบ และผู้ผลิตกระเป๋าเงินซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์จากข้อกำหนดการรายงานภาษีดั้งเดิม
- การแก้ไขเพิ่มเติมโดยวุฒิสมาชิก Rob Portman, Mark Warner และ Kyrsten Sinema ซึ่งได้มาเข้าร่วม และแข่งกันการแก้ไขเบื้องต้น โดยคราวนี้สนับสนุนโปรโตคอลการพิสูจน์การทำงานมากกว่าผู้อื่น แม้ว่าจะไม่เป็นที่นิยมในชุมชนคริปโต แต่ทำเนียบขาวก็เดินหน้ารับรอง
- วุฒิสมาชิก 5 ใน 6 คนเสนอการแก้ไขประนีประนอมในนาทีสุดท้ายกับกรมธนารักษ์ อย่างไรก็ตาม ไม่ได้รับความยินยอมเพียงพอตามที่กำหนดโดยกฎขั้นตอน
