จีนกำลังจะแสดงให้โลกเห็นว่าเศรษฐกิจของพวกเขากำลังถูกดึงออกจากช่องว่างที่เกิดขึ้นโดย COVID-19 ทำให้มีความแตกต่างจากประเทศอื่น ๆ ที่ยังคงพยายามดิ้นรนเพื่อหลีกเลี่ยงการ Lockdown ครั้งใหม่
GDP ในประเทศสำหรับไตรมาสที่ 3 จะครบกำหนดในวันจันทร์นี้ ซึ่งคาดว่าจะขยายตัว 5.5% จากปี 2019 และจะเป็นการฟื้นตัวจากการหดตัวครั้งประวัติศาสตร์ในช่วง 3 เดือนแรกของปี
การค้าทั่วโลกเป็นแรงขับเคลื่อนที่แข็งแกร่งอย่างไม่คาดคิดสำหรับจีนซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก ขณะที่ผู้บริโภคภายในประเทศที่ยังระมัดระวังก็มีความมั่นใจมากขึ้น การมองโลกในแง่ดีที่กลับมานั้น ขึ้นอยู่กับความสำเร็จของประเทศในการรักษาและควบคุม COVID-19 ในทางปฏิบัติแม้จะมีการแพร่ระบาดเกิดขึ้นเป็นครั้งคราวในบางพื้นที่
แม้ว่าจะอยู่ในช่วงการฟื้นตัวในประเทศที่แข็งแกร่งขึ้น แต่ความคาดหวังของการ Lockdown ครั้งใหม่ท่ามกลางอัตราการติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นในยุโรปและที่อื่น ๆ มาพร้อมกับแนวโน้มที่ไม่แน่นอนสำหรับจีนซึ่งอาศัยภาคการส่งออกและการผลิตเพื่อช่วยกระตุ้นของเศรษฐกิจ
ขณะเดียวกัน ข้อมูลในเดือนกันยายนของการผลิตภาคอุตสาหกรรม ยอดค้าปลีก การลงทุน และการว่างงานจะทำให้สามาถอ่านแรงขับเคลื่อนพื้นฐานได้ชัดเจนขึ้น
Chang Shu หัวนักเศรษฐศาสตร์เอเชียของ Bloomberg กล่าวว่า
“ความเชื่อมั่นและการบริโภคของผู้บริโภคที่ดีขึ้นมีแนวโน้มที่จะกระตุ้น Demand ในภาคเอกชนอีกด้วย ขณะที่ตัวชี้วัดชั้นนำบ่งชี้ว่า Demand (ในอนาคต) จะกลับมาในอัตราที่เร็วกว่าการผลิตในระยะการฟื้นตัวนี้”
ในประเทศอื่น ๆ ธนาคารกลางอย่างน้อย 9 แห่งนับตั้งแต่รัสเซียไปจนถึง Mozambique จะประกาศการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย ในขณะที่ตัวชี้วัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจในยุโรปอาจส่งสัญญาณว่าการเติบโตกำลังลดลง
สหรัฐอเมริกา และ แคนาดา
ในสหรัฐอเมริกา ตัวเลขการเริ่มต้นก่อสร้างที่อยู่อาศัย (residential construction starts) รวมถึงยอดขายบ้านมือ 2 (previously owned home sales) และการยื่นขอสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ (weekly unemployment benefit applications) ถือเป็นจุดเด่นของสัปดาห์ที่ค่อนข้างเงียบสำหรับข้อมูลเศรษฐกิจ นอกจากนี้ธนาคารกลางสหรัฐฯจะออก Beige Book ซึ่งเป็นชุดการประเมินกิจกรรมทางเศรษฐกิจและธุรกิจภายใน 12 ภูมิภาคของธนาคารกลางแต่ละแห่ง
ในแคนาดา นักลงทุนจะจับตาดูการเปิดเผยแนวโน้มธุรกิจของธนาคารกลางในวันจันทร์นี้ ส่วนข้อมูลเงินเฟ้อจะเปิดเผยในวันพุธ โดยรายงานเหล่านั้นจะเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจเพื่อกำหนดอัตราการดอกเบี้ยในวันที่ 28 ตุลาคมนี้
ยุโรปตะวัน ออกกลาง และ แอฟริกา
สัปดาห์นี้จะมีการนำเสนอหลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับการฟื้นตัวของพื้นที่ยูโรโซน โดยคาดการณ์ว่า PMI จะอ่อนตัวลงอีกครั้งในเดือนตุลาคม ตัวเลขเหล่านี้จะเป็นไปตามความวุ่นวายที่เกิดขึ้นอีกครั้งของผู้กำหนดนโยบายในธนาคารกลางยุโรป ซึ่งจะเป็นการให้คำแนะนำสุดท้ายแก่นักลงทุนเกี่ยวกับมุมมองของพวกเขา ก่อนที่ช่วงเวลาเก็บตัวก่อนการตัดสินใจอัตราดอกเบี้ยของ ECB ในวันที่ 29 ตุลาคมนี้จะมาถึง
ในสหราชอาณาจักร อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มจะดีดตัวขึ้นหลังจากที่โครงการสนับสนุนร้านอาหาร “Eat Out to Help Out” ของรัฐบาลสิ้นสุดลง ขณะที่ตลาดจะรอฟังสุนทรพจน์ของ Bank of England อย่างใกล้ชิดเพื่อหาคำใบ้เกี่ยวกับการกระตุ้นเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนนี้
ธนาคารกลางของฮังการี ก็จะมีการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยรายเดือนและรายสัปดาห์ภายในการประชุมเป็นระยะเวลา 2 วัน ขณะที่นักลงทุนหวังว่าจะมีความชัดเจนไม่ว่าอ้ตราทั้ง 2 จะเคลื่อนไหวควบคู่ไปด้วยกันหรือแตกต่างกัน
ในขณะเดียวกัน ยูเครนจะประกาศอัตราดอกเบี้ยนโยบายท่ามกลางความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสและความเป็นอิสระหรือความร่วมมือกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)
ทางฝั่งธนาคารกลางแห่งอิสราเอล ก็อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงต่ำกว่าระดับปัจจุบันที่ 0.1% หรือเลือกที่จะขยายการซื้อพันธบัตรรัฐบาล เนื่องจากประเทศเริ่มผ่อนคลายจากการ Lockdown ทั่วประเทศเป็นครั้งที่ 2
ในตุรกี ธนาคารกลางอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 2 ในเวลาไม่ถึง 1 เดือนเนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ใกล้ตัวเลข 2 หลักและอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง (real interest rates ซึ่งหมายถึงหักลบกับอัตราเงินเฟ้อเข้าไปด้วย) ยังคงอยู่ในระดับติดลบ
ธนาคารแห่งรัสเซีย คาดว่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยเท่าเดิมต่อไป แต่นักลงทุนกำลังจับตาดูสัญญาณว่าวงจรการผ่อนคลายของธนาคารกลางกำลังจะสิ้นสุดลงหรือไม่ท่ามกลางค่าเงินรูเบิลที่อ่อนตัวลง
ธนาคารกลางของนามิเบีย (Namibia) อาจจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ไม่เปลี่ยนแปลงเช่นกัน หลังจากที่แอฟริกาใต้ซึ่งเป็นประเทศคู่ค้าของพวกเขาทำในเดือนที่แล้ว อย่างไรก็ตามอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานของนามิเบียในปัจจุบันนั้นต่ำกว่าของประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งอาจคุกคามถึงเงินสำรองของประเทศและการตรึงค่าสกุลเงิน
ส่วนประเทศโมซัมบิก (Mozambique) ก็อาจคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิม เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อเริ่มสูงขึ้น ขณะที่ธนาคารกลางของยูกันดาอาจมีขอบเขตที่เพิ่มขึ้นในการผ่อนคลาย เนื่องจากเงินเฟ้อเริ่มชะลอตัว และ IMF คาดว่าเศรษฐกิจจะหดตัวในปีนี้
เอเชีย
นอกเหนือจาก GDP ของจีนแล้ว การเปิดเผยที่สำคัญอื่น ๆ ในภูมิภาคยังรวมถึงตัวเลขการส่งออกของญี่ปุ่น และข้อมูลเบื้องต้นของเกาหลีใต้ในช่วงเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งจะเป็นตัวบ่งชี้ล่าสุดว่าการค้าโลกกำลังฟื้นตัวขึ้นอย่างไร
ในทำนองเดียวกันการเปิดเผยดัชนี PMI ของญี่ปุ่นจะทำให้เห็นภาพของการฟื้นตัวในภาคการผลิตและการบริการ ขณะที่ข้อมูลเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่จะแสดงให้เห็นว่าราคาของสินค้ายังคงลดลง
ละตินอเมริกา
รายงานการว่างงานในเดือนกันยายนของเม็กซิโกที่จะเปิดเผยในวันพุธนี้ อาจแสดงให้เห็นถึงเดือนที่ 3 ของการฟื้นตัวเล็กน้อย หลังจากอัตราว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 10 ปีเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ขณะที่การฟื้นตัวซึ่งซบเซาเนื่องจากการสูญเสียแรงขับเคลื่อนได้บ่งชี้ว่าระดับแนวโน้มเหล่านี้จะยังคงเพิ่มขึ้นไปอีกระยะหนึ่ง
การเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อในช่วงกลางเดือนนี้ ควรพบว่าราคาอยู่ในช่วงเป้าหมายของธนาคารกลางเม็กซิโก ในขณะที่บราซิลยังคงมีพื้นที่ว่างให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย แม้ว่าตัวเลขดังกล่าวอาจเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่านับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
สำหรับผลผลิตและ Demand ดัชนีกิจกรรมทางเศรษฐกิจของอาร์เจนตินามีแนวโน้มที่จะลดลงในระดับเลข 2 หลักเป็นครั้งที่ 6 ติดต่อกัน ขณะที่รายงานยอดค้าปลีกของเม็กซิโกจะเน้นย้ำถึงขอบเขตของความต้องการที่ลดลงอย่างน่าตกใจ
สุดท้าย รายงานดุลบัญชีเดินสะพัดของบราซิลที่จะเปิดเผยในวันศุกร์นี้ อาจทำให้เกิดการตัดสินใจมากกว่าแค่การลดอัตราดอกเบี้ย ขณะที่รัฐบาลใช้จ่ายเงินไปแล้วกว่า 5.7 หมื่นล้านดอลลาร์ในการประคับประคองภาคครัวเรือนของประเทศทั้งหมด และเป็นการทำให้แน่ใจว่ารัฐบาลจะขาดดุลงบประมาณเป็นประวัติการณ์ในปีนี้
ก่อนหน้านี้ในวันจันทร์ที่ผ่านมา IMF กล่าวว่าบราซิลซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของละตินอเมริกาจะเผชิญกับความเสี่ยง “สูงเป็นพิเศษและมีหลายแง่มุม” เนื่องจากยังคงต้องต่อสู้กับการแพร่ระบาดของ COVID-19 และผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทางด้านหนี้สินของประเทศ
References :
1.https://www.bloomberg.com/news/articles/2020-10-18/china-will-likely-show-covid-19-recovery-can-be-real-eco-week
2.https://www.bloomberg.com/news/articles/2020-10-15/what-to-watch-in-china-gdp-data-as-economic-rebound-strengthens
3.https://www.bloomberg.com/news/articles/2020-10-12/china-finds-cluster-in-qingdao-city-ending-virus-free-streak
4.https://www.bloomberg.com/news/articles/2020-10-16/london-and-paris-steel-for-curbs-to-check-spreading-virus
5.https://www.bloomberg.com/news/articles/2020-10-15/ecb-sees-reason-not-to-rush-stimulus-despite-new-virus-threat
6.https://www.bloomberg.com/news/articles/2020-10-13/boe-s-bailey-downplays-talk-of-v-shaped-u-k-economic-recovery
7.https://www.bcb.gov.br/en/monetarypolicy/historicalpath
8.https://www.bloomberg.com/news/articles/2020-10-02/bolsonaro-s-newfound-appetite-for-spending-has-markets-on-edge
9.https://www.bloomberg.com/news/articles/2020-10-05/brazil-s-economy-chief-and-lower-house-speaker-try-to-make-peace
