มื่อวันที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมา นาย Paul Gosar (สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากรัฐแอริโซนา) ได้เผยแพร่ “พระราชบัญญัติสินทรัพย์ดิจิทัล ปี 2020” ซึ่งเป็นร่างกฎหมายที่ออกมาเผื่อชี้แจงรายละเอียดว่าหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐอเมริกาใดจะรับผิดชอบสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทใดบ้าง
ใจความสำคัญของร่างกฎหมายใหม่
นาย Will Stechschulte ผู้ช่วยฝ่ายกฎหมายของนาย Gosar ได้ให้ข้อมูลว่า “ร่างกฎหมายดังกล่าวไม่เพียงแต่จะช่วยให้ความกระจ่างชัดในแนวทางการปฏิบัติตน แต่ยังให้สถานะทางกฎหมายแก่สินทรัพย์ดิจิทัลในสหรัฐอเมริกาอีกด้วย”
ร่างกฎหมายของนาย Gosar แบ่งสินทรัพย์ดิจิทัลออกเป็นสามหมวดหมู่ได้แก่ crypto-commodity, crypto-currency และ crypto-security ตามลำดับ สินทรัพย์ทั้งสามประเภทจะถูกควบคุมโดย สำนักงานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินทรัพย์ล่วงหน้า (CFTC) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังโดยผ่านเครือข่ายการบังคับใช้กฎหมายอาชญากรรมทางการเงิน (FinCEN) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC)
ความน่าสนใจคือ ภาษาที่ใช้ในร่างกฎหมายฉบับนี้ดูเหมือนจะเป็นการรวมสถานะของสินทรัพย์ดิจิทัลเช่น Bitcoin ให้เป็นสินค้าโภคภัณฑ์ (crypto-commodity) มากกว่าจะเป็นสกุลเงินดิจิทัล (crypto-currency) โดยการให้ความหมายของสินทรัพย์ประเภท “crypto-currency” ได้ถูกกำหนดไว้ว่า “สินทรัพย์ที่เป็นตัวแทนของสกุลเงินสหรัฐฯหรือตราสารอนุพันธ์สังเคราะห์” ดูเหมือนจะเข้าข่ายกับเหล่า Stablecoin เช่น Tether (USDT) เสียมากกว่า
ส่วน crypto-security ได้มีคำจำกัดความไว้ว่า: “ตราสารหนี้ ตราสารทุน และตราสารอนุพันธ์ที่อยู่บนเทคโนโลยีบล็อกเชน หรือแพลตฟอร์มที่มีการเข้ารหัสและกระจายศูนย์”
อย่างไรก็ตาม ร่างกฎหมายฉบับนี้ยังไม่ได้มีการเอ่ยถึง โทเค็นที่มีลักษณะพิเศษเฉพาะตัว (non-fungible tokens) เช่นของสะสมทางดิจิทัลอย่าง CryptoKitties แต่อย่างใด
ร่างฉบับนี้ถูกปรับปรุงให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น
ร่างกฎหมายฉบับนี้เป็นฉบับปรับปรุงใหม่จากฉบับที่เคยหลุดออกมาก่อนหน้านี้ในเดือนธันวาคม การปรับปรุงเพิ่มเติมครั้งนี้ได้เพิ่มคำจำกัดความของชื่อเรียกต่าง ๆ เช่น “Decentralized cryptographic ledger” และ “Smart contract” ซึ่งล้วนแต่เป็นชื่อเรียกของนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ผู้ออกกฎหมายของสหรัฐฯเองก็ยังไม่เข้าใจมากนัก
ร่างกฎหมายที่ปรับปรุงใหม่นี้มีความพยายามในการกำหนด “กลุ่มหน่วยงานหลัก” แทนที่จะเป็น “หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง” ที่มีหน้าที่เป็นผู้รับผิดชอบทางกฏหมายต่อเหล่าธุรกิจและสินทรัพย์ดิจิทัลเหล่านี้ เพื่อป้องกันความคลุมเคลือและการทับซ้อนกันของอำนาจบังคับใช้
ในปีที่ผ่านมาเราได้เห็นร่างกฎหมายใหม่จำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกฎหมายที่ออกมาเพื่อรับมือกับสกุลเงิน Libra ของ Facebook โดยสำนักงาน ก.ล.ต. ได้ทำการกดดันด้านกฎระเบียนจน Libra ต้องออกมาปรับกลยุทธ์กันขนานใหญ่
อย่างไรก็ตามร่างกฎหมายที่ใกล้เคียงที่สุดกับการร่าง พรบ.ของนาย Gosar คือ พรบ. Token Taxonomy ของนาย Warren Davidson (สส.จากรัฐโอไฮโอ) ซึ่งถูกนำเสนอครั้งแรกในปี 2018 และได้รับการปรับปรุงแก้ไขและนำมาใช้ใหม่ในเดือนเมษายนปี 2019
ส่วนนักลงทุนบิทคอยน์นาย Erick Finman ซึ่งเป็นตัวแทนจากภาคอุตสาหกรรมเงินดิจิทัลที่เข้าร่วมรับฟังร่างกฎหมายได้ให้ความเห็นว่า พระราชบัญญัติ Token Taxonomy เป็นกฎหมายที่ดูล้าสมัยไปแล้ว โดยเขากล่าวสนับสนุนพระราชบัญญัติสกุลเงินดิจิทัลฉบับ 2020 นี้ว่า “ผมคิดว่ากฎหมายฉบับนี้มีขอบข่ายที่ครอบคลุมและทั่วถึงมากกว่า”
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง: กระทรวงการคลังสหรัฐฯ เปิดหารือเกี่ยวด้านกฎระเบียบและการควบคุมดูแลสินทรัพย์เงินดิจิทัล