ฤดูฝนเกี่ยวอะไรกับบิทคอยน์? นักขุดไม่ใช่ชาวนา ทำไมต้องรอฟ้ารอฝนด้วย? เกี่ยวแน่ถ้าพลังงานที่ใช้ในการทำเหมืองบิทคอยน์ส่วนใหญ่มาจากน้ำ โดยจากรายงานหลายฉบับพบว่าปัจจุบันนี้จีนถือเป็นฮอตสปอตใหญ่ที่สุดของอุตสาหกรรมเหมืองบิทคอยน์โดยเฉพาะในมลฑลเสฉวนที่มีเขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้าพลังน้ำเป็นจำนวนมาก
ฝนที่เทลงมา นอกจากจะช่วยหล่อเลี้ยงชีวิตและเกษตรกรแล้วยังช่วยผลิตกระแสไฟฟ้าซึ่งถือเป็นต้นทุนหลักของการขุดบิทคอยน์อีกด้วย ปริมาณน้ำที่มากขึ้นหมายความว่าเขื่อนสามารถผลิตกระแสไฟได้ถูกลงซึ่งมีผลโดยตรงต่อสภาวะขาดทุน/กำไรของเหล่านักขุด เมื่อต้นทุนถูกลดนักขุดบางส่วนที่จำต้องปิดเครื่อง ASIC รุ่นเก่า ๆ ของตัวเองไปอาจจะถือโอกาสนี้กลับมาทำกำไรได้อีกครั้งหลังจากการ Halving ครั้งที่สามที่พึ่งผ่านไปอันส่งผลให้รางวัลของนักขุด (Block Rewards) ลดลงไปถึง 50% เหลือเพียง 6.25 BTC ต่อหนึ่งบล็อกเท่านั้น
เมื่ออ้างอิงจากแผนที่นักขุดที่จัดทำโดยมหาวิทยาลัย Cambridge แล้วจะพบว่าขณะนี้ มณฑลเสฉวนมีกำลังขุด (Hashrate) เพียง 10% ของทั้งโลก ตามหลังมณฑลซินเจียงในภาคตะวันตกเฉียงเหนือที่มีพลังงานส่วนเกินจากแสงอาทิตย์เป็นจำนวนมากโดยมีกำลังขุดคิดเป็นกว่า 36% จากทั้งหมด อย่างไรก็ตามจากข้อมูลในปีก่อน ๆ เหล่านักขุดมักจะย้ายฐานการขุดไปตามฤดูกาลโดยในช่วงฤดูฝนจะย้ายฐานการขุดเพื่อกลับมาใช้ประโยชน์จากพลังงานน้ำส่วนเกินในมณฑลเสฉวนนั่นเอง
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ปีนี้หน้าฝนที่ควรจะมาถึงแล้วตั้งแต่เดือนพฤษภาคมกลับยังแห้งแล้งจากภูมิอากาศที่เปลี่ยนไป ทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำลดลงถึง 20% จนเหมืองหลาย ๆ แห่งต้องจำใจปิดเครื่องขุดไปก่อนชั่วคราวรอฝนที่ควรจะตกลงมาอยู่ร่ำไร
เคราะห์ซ้ำกรรมซัด เมื่อปีนี้เป็นปีของการ Halving พอดิบพอดี ทำให้กำไรที่ควรจะมีอยู่กลับหดหายไป เป็นทุกข์ของทั้งเจ้าของเครื่องขุดและผู้ให้บริการเช่าพื้นที่ทำเหมืองขุดเนื่องจากจำนวนลูกค้าหายไปจำนวนมาก ทั้งยังมีสัญญาที่ทางผู้ให้บริการเช่าพื้นที่มักทำกับโรงไฟฟ้าในมณฑลไว้ว่าจะตกลงซื้อไฟฟ้าขั้นต่ำจำนวนเท่าไหร่ในหนึ่งเดือน ทำให้เหล่าเจ้าของโรงขุดต้องลดแลกแจกแถมเพื่อดึงดูดเจ้าของเครื่องขุดหลาย ๆ เจ้ามาใช้โรงขุดร่วมกันเพื่อใช้ไฟฟ้าให้ถึงโควต้าขั้นต่ำ
แม้จะมีความหวังว่าปริมาณน้ำฝนที่มาพร้อมกับฤดูมรสุมจะช่วยดึงดูดนักขุดให้เข้ามาใช้บริการมากขึ้น แต่หน้าฝนก็ยังมีอันตรายจากน้ำท่วมและเหตุการณ์ดินถล่มที่อาจทำลายเหมืองขุดบิทคอยน์ลงได้ภายในพริบตา
เครื่องขุดรุ่นใหม่กำลังมา
นาย Matt D’souza ซีอีโอบริษัท Blockware Solution ผู้ให้บริการจัดหาเครื่องขุดบิทคอยน์ได้เปิดเผยว่า ตอนนี้อุตสาหกรรมเหมืองขุดกำลังแย่จาก Block Reward ที่ลดลงและราคาของบิทคอยน์ที่ยังไม่เพิ่มขึ้นมากเท่าที่ควร แต่เครื่องขุดรุ่นใหม่กำลังมา ทั้ง M30 จาก MicroBT และ Antminer S19 จาก Bitmain ที่มีกำลังการขุดถึง 100 – 120 TH ต่อวินาทีอาจเข้ามาช่วยให้นักขุดมีกำไรมากขึ้นจนสามารถอยู่รอดในสภาวะที่โหดร้ายเช่นนี้ได้
“เราจะได้เห็นกำลังประมวลผล (Hashrate) ของระบบเพิ่มขึ้นหลังจากเครื่องขุด S19 ได้นำจัดส่งถึงมือลูกค้าอย่างทั่วถึง โดยเครื่องขุดรุ่นใหม่นี้ทรงพลังและประหยัดพลังงานกว่ารุ่นเก่าอย่าง S17 มาก”
แม้ก่อนหน้านี้เหล่านักขุดจะสั่งจองเครื่องขุดรุ่นใหม่ ๆ นี้ไปจดเกลี้ยงสต็อก แต่การระบาดของไวรัสโค โรน่าก็ส่งผลให้การจัดส่งเกิดการล่าช้า แต่สถานการณ์ที่กำลังกลับสู่สภาวะปรกติในประเทศจีนจะส่งผลให้ภาพรวมของอุตสาหกรรมนักขุดกลับมาดีขึ้นเรื่อย ๆ อย่างแน่นอน
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง: ผลวิจัยมหาวิทยาลัย Cambridge เผยเหมืองบิทคอยน์จีนครองสัดส่วน 65% ของ Hash Rate ทั้งหมด