ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม นักขุดบิทคอยน์ทั้งโลกมีรายได้รวมอยู่ที่ 2,188 BTC แต่หลังจากเกิด Bitcoin Halving ในวันที่ 12 พฤษภาคม ปรากฎว่ารายได้รวมของนักขุดลดลงกว่า 61% เหลืองเพียง 852 BTC เท่านั้น ทำให้นักขุดบางรายต้องยอมถอดปลั๊กและส่งผลให้ค่า Hash Rate หรือกำลังประมวลผลลดลง ทำให้การหาบล็อกใหม่กินเวลานานกว่าปรกติ
บล็อกใหม่ที่เกิดขึ้นช้าลงนี้ ส่งผลให้ความแออัดของเครือข่ายเพิ่มสูงขึ้นทำให้ค่าธรรมเนียมการโอนบิทคอยน์เพิ่มขึ้นจากระดับ 0.62 ดอลลาร์ในช่วงปลายเมษายนเพิ่มมาอยู่ที่ 5.21 ดอลลาร์ ในวันที่ 15 พฤษภาคม ซึ่งค่าธรรมเนียมที่สูงขึ้นนี้ได้กลายมาเป็นส่วนสำคัญของรายได้ของนักขุด โดยคิดเป็น 17% ของรายได้ ซึ่งถือสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2018
โดยการ Halving ที่เกิดขึ้นทุก ๆ 4 ปีนั้น จะส่งผลให้มีบิทคอยน์ที่เกิดใหม่ในรูปแบบของ Block Rewards น้อยลงเรื่อย ๆ ส่งผลให้เหล่านักขุดต้องพึ่งพารายได้จากค่าธรรมเนียมมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การที่ค่าธรรมเนียมสูงขึ้นแม้จะเป็นการต่อลมหายใจให้แก่เหล่านักขุด แต่มันก็ทำให้ผู้ใช้ลังเลที่จะส่งบิทคอยน์หากันจากค่าธรรมเนียมที่สูงและความล่าช้าของการโอนที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข
นอกจากนี้ ค่าความยากในการขุดหรือ Difficulty Rate ที่ได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องก่อนการเกิด Halving กำลังจะถูกปรับอีกครั้งในอีก 220 บล็อก หรือประมานอีก 36 ชั่วโมงหลังจากนี้ ค่าความยากที่ลดลงจะทำให้นักขุดสามารถหาบล็อกใหม่ได้ง่ายขึ้น ถือเป็นการปรับสมดุลในระบบของบิทคอยน์นั่นเอง
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง : ค่าธรรมเนียมการโอนบิทคอยน์พุ่งกว่า 800% ภายในเดือนเดียว