ราคาบิทคอยน์ (BTC) ดีดตัวฟื้นกลับขึ้นมาเป็นครั้งแรกในรอบสองสัปดาห์ ทำให้มูลค่าบิทคอยน์อยู่เหนือระดับ 51,000 เหรียญสหรัฐ ท่ามกลางความรู้สึกเชิงบวกของบรรดานักลงทุนที่มีต่อตลาดการเงินโดยรวมต้อนรับเทศกาลคริสต์มาส
ทั้งนี้ ในขณะที่เขียนรายงาน ราคาของบิทคอยน์ขยับเพิ่มขึ้นแล้ว 5.94 % ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยมีมูลค่าตลาดมากกว่า 965,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 69,000 เหรียญสหรัฐในช่วงเดือนพฤศจิกายน ก่อนที่จะปรับลดลงเหลือประมาณ 40,000 เหรียญสหรัฐเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม และขยับฟื้นตัวขึ้นมาได้ในท้ายที่สุด
ขณะเดียวกัน รายงานระบุว่า มีปริมาณเงินไหลจากสินทรัพย์ประเภทที่ผันผวน เช่น คริปโตและตราสารทุน ไปสู่สินทรัพย์เพื่อการลงทุนที่มีเสถียรภาพมากขึ้น เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น และเฟดประกาศนโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้น โดย Ross Mayfield นักวิเคราะห์กลยุทธ์การลงทุนของ Baird กล่าวว่าแม้บิทคอยน์จะยังคงถูกมองว่าเป็นการป้องกันความเสี่ยงของหุ้น แต่ก็ยังไม่เป็นเช่นนั้น:
“ฉันมองว่าบิทคอยน์เป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง เมื่อความอยากเสี่ยงมีเพิ่มขึ้น มันจะยิ่งทวีคูณยิ่งขึ้น และเมื่อความอยากเสี่ยงลดลง ราคาของบิทคอยน์ก็สามารถลดฮวบลงได้มากเช่นกัน มันไม่ได้สัมพันธ์กันอย่างสมบูรณ์ นั่นง่ายเกินไปสำหรับการอ่าน แต่ก็ไม่ใช่การป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนอย่างแน่นอน
Ross Mayfield นักวิเคราะห์กลยุทธ์การลงทุนของ Baird กล่าว
เมื่อไม่นานมานี้ ทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC) เพิ่งจะปฏิเสธการจดทะเบียนของกองทุน ETF Bitcoin สองรายการ แม้ว่าSECจะแสดงความคุ้นเคยกับกองทุน Bitcoin Futures ETF แต่คัดค้านการอนุมัติกองทุน Bitcoin ETF ที่ได้รับการสนับสนุนทางกายภาพ อย่างไรก็ตาม ราคาของบิทคอยน์ก็ยังคงเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ รายงานระบุว่า สองบริษัทต้นสังกัดของ 2 กองทุนดังกล่าวอย่าง Valkyrie Investments และ Krytoins ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดที่กำหนดโดยหน่วยงานกำกับดูแล ซึ่งมีขึ้นเพื่อป้องกันการยักย้ายถ่ายเทและการฉ้อโกง ทำให้กองทุนได้รับการปฏิเสธ
