รายงานจากเว็บไซต์ Cointelegraph และ TradingView ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า ราคาของบิทคอยน์ (BTC) มีการขยับขึ้นมาแตะ 47,731 ดอลลาร์สหรัฐ บนแพลตฟอร์มซื้อขายแลกเปลี่ยนคริปโตเคอร์เรนซีอย่าง Bitstamp ซึ่งเพียงพอจะเรียกได้ว่าเป็นการพลิกฟื้นขึ้นมาจากการซื้อขายในวันก่อนที่ปรับตัวลดลงไป โดยก่อนหน้านี้ ราคาของบิทคอยน์เพิ่งจะดิ่งแตะระดับ 46,648 ดอลลาร์สหรัฐ และเหล่าเทรดเดอร์ต่างเห็นว่าความผันผวนของราคาบิทคอยน์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วอาจลากยาว ไม่ได้สิ้นสุดในเร็ววันนี้
ทั้งนี้ ในขณะที่เขียนรายงานฉบับนี้ ราคาของบิทคอยน์อยู่ที่ 47,855.70 ดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ราคาบิทคอยน์ขยับขึ้น 0.74% และมีปริมาณการซื้อขายสูงถึง 28 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ คริปโตอีกตัวอย่าง อีเธอร์ กลับปรับตัวลดลง 0.43% ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาเช่นกัน โดยลดลงแตะระดับที่ 3,749 ดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่ก่อนหน้านี้เพิ่งลดลงแตะระดับต่ำสุดถึง 3,595 ดอลลาร์สหรัฐ
Glassnode บริษัทประมวลวิเคราะห์ข้อมูล ระบุในจดหมายข่าวประจำสัปดาห์ฉบับล่าสุด ว่านอกเหนือจากความเป็นไปได้ที่การบีบเลเวอเรจจะเพิ่มขึ้นแล้ว ยังแนวโน้มที่มีปริมาณการซื้อขายทั่วไปลดลงด้วย
รายงานระบุว่า กิจกรรมการซื้อขายที่เงียบลงถือเป็นเรื่องปกติในช่วงสิ้นปี อย่างไรก็ตาม โดยเฉลี่ย 7 วัน ปริมาณตลาดซื้อขายล่วงหน้าพบว่า YTD ลดลง 16% ขณะที่ปริมาณการซื้อขายที่เบาบางและอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น (ในช่วงที่ซื้อขายหนาแน่น) คือการผสมผสานที่เอื้ออำนวยต่อการบีบเลเวอเรจที่แปลเป็นภาษาท้องถิ่นเป็นอย่างน้อยในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
ขณะเดียวกัน ผลประกอบการที่ต่ำกว่าของกองทุน Bitcoin Futures ETF ตัวแรกของสหรัฐฯ ก็เป็นหนึ่งในสัญญาณบ่งบอกว่าความสนใจของบรรดานักลงทุนสถาบันที่มีต่อบิทคอยน์ยังคงต่ำกว่าปกติ
อย่างไรก็ตาม Glassnode ตั้งสังเกตว่าอัตราดอกเบี้ยแบบเปิดทั้งหมดสำหรับฟิวเจอร์สเพิ่มขึ้น 2 เท่าในปีนี้ มาอยู่ที่ 18,870 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จาก 9,570 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ด้าน MicroStrategy เพิ่งทำการซื้อบิทคอยน์อีกครั้ง ซึ่งในครั้งนี้ บริษัทซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ได้ซื้อประมาณ 1,914 BTC ในราคาประมาณ 94.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ เวลาที่ซื้อ บริษัทระบุว่ามีประมาณ 124,391 BTC ในราคาซื้อรวม 3,750 ล้านดอลลาร์สหรัฐ