- น้ำมันยังคงมีความยืดหยุ่นในการค้าขายในเอเชีย เนื่องจากผู้ค้ามุ่งเน้นไปที่ความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากภูมิภาคซึ่งกำลังเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเรื่อยๆ
- การหยุดชะงักของอุปทานอย่างต่อเนื่องจากสงครามต่อเนื่องในยูเครนมีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบมากกว่าแนวโน้มที่จะเกิดภาวะถดถอยในสหรัฐฯ จากนโยบายของธนาคารกลางที่เข้มงวดขึ้น
หลังจากการดิ่งลง 7% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา น้ำมันได้ฟื้นคืนฐานรากในเอเชีย โดยผู้ค้าพิจารณาถึงความเป็นไปได้ของอุปสงค์ในระยะสั้นที่มากขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้เปิดกว้างให้เดินทางมากขึ้น บดบังความกังวลว่าการเงินของสหรัฐฯ จะตึงตัวและความกลัวที่จะเกิดขึ้น ภาวะถดถอย
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ซื้อขายอยู่ที่ 109 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล โดย ‘ความกังวล’ เป็นความรู้สึกที่แพร่หลายท่ามกลางความกลัวว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยซึ่งจะทำให้ตลาดการเงินเสียหาย
ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นในปีนี้อันเนื่องมาจากสงครามกับยูเครน ทำให้อุปทานหยุดชะงักหลังจากการบริโภคที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากการยกเลิกการจำกัดการระบาดใหญ่ แม้จะมีความปั่นป่วนของตลาดหลังจากการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดเมื่อเร็วๆ นี้ แต่ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นก็มีแนวโน้มว่าจะยังคงอยู่หากสงครามยังคงมีอยู่และกันไม่ให้น้ำมันดิบของรัสเซียหลุดออกจากตลาดโลก
ยิ่งกว่านั้น ตลาดน้ำมันกำลังชะงักงัน (ซึ่งราคาในระยะสั้นซื้อขายสูงกว่าราคาที่ซื้อขายกันระยะยาว) บ่งชี้ว่าอุปทานตึงตัว แต่คาดว่าในระยะยาว ภาวะถดถอยจะส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ หรืออุปทานของรัสเซียกลับคืนสู่ตลาดโลก