Damir Bandalo ผู้ก่อตั้ง Encode Club ได้ออกมาเผยผลสำรวจตลาด DeFi ผ่านทางทวิตเตอร์ว่า มูลค่าเหรียญที่ถูกล็อกไว้ในโปรเจกต์ DeFi ต่าง ๆ ที่ล่าสุดมีมูลค่าแตะ 6,320 ล้านดอลลาร์นั้นอาจจะเป็นตัวเลขที่ผิดเพี้ยน และมูลค่าจริงอาจหายไปถึงครึ่งหนึ่ง!
โดยจากการรายงานของ DeFi Pulse ระบุว่า มูลค่าเหรียญที่ถูกล็อกไว้ในโปรเจกต์ DeFi ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด 15 อันดับนั้นเติบโตกว่า 6 เท่าภายในช่วงสามเดือนที่ผ่านมานั้น หลัก ๆ มีปัจจัยมาจากการเติบโตของการทำ Yield Farming และการเปิดตัว Compound Protocol
แต่ในอีกมุมมองหนึ่ง Encode Club ได้ชี้ว่ามูลค่าคริปโตเคอเรนซี่ที่ถูกล็อกไว้น่าจะมีเพียง 3,500 ล้านดอลลาร์จาก 15 โปรเจกต์หลัก ๆ เท่านั้น เนื่องจากการคำนวนมูลค่าอาจมีการคาดเคลื่อนได้เนื่องจากสินทรัพย์หนึ่งสามารถนำไปขยายต่อในโปรเจกต์ DeFi อื่น ๆ ได้อีกหลายครั้ง
ตัวอย่างเช่น ผู้ใช้งานสามารถทำการล็อก Ethereum (ETH) ไว้ใน MakerDAO เพื่อสร้างเหรียญ DAI ที่เป็น Stablecoin จากนั้นก็สามารถนำ DAI ดังกล่าวไปล็อกไว้ใน DeFi Protocols อื่น ๆ ได้อีกหลายแห่ง ก่อให้เกิดการคำนวนมูลค่าที่ซ้ำซ้อนขึ้นมานั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ยังมีโอกาสที่ DeFi จะสามารถเติบโตได้อีกมาก จากแหล่งข้อมูลพบว่า มีเพียง 3.85% ของจำนวน Ethereum (ETH) และ 0.18% ของ Bitcoin (BTC) ทั้งหมดเท่านั้นที่ถูกล็อกไว้ในโปรเจกต์ DeFi ต่าง ๆ ซึ่งเมื่อเทียบกับกระแส ICO บูมเมื่อปี 2017 แล้วนั้น มี ETH ถึง 10% จากทั้งหมดถูกใส่เข้าไปในโปรเจกต์ ICO นั่นหมายความว่า DeFi ยังสามารถเติบโตได้อีกอย่างน้อยหนึ่งเท่าตัวก่อนที่จะเกิดฟองสบู่แตกเช่นเดียวกับ ICO ทั้งหลาย
โดย Wrapped Bitcoin (wBTC) เป็นโทเคนที่ใช้ BTC หนุนหลังที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในบล็อกเชนของ Ethereum และมีจำนวนกว่า 50% ของ wBTC ทั้งหมดได้ถูกล็อกไว้ใน Compound
ETH ยังคงเป็นสินทรัพย์ที่ถูกนำมาล็อกไว้ในโปรเจกต์ DeFi มากที่สุดโดยมีสัดส่วนกว่า 50% ของมูลค่าสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งหมดที่ถูกล็อกไว้ใน DeFi ตามมาด้วย Stablecoins ต่าง ๆ ที่ 33% ขณะที่ BTC มีสัดส่วนเพียง 10% ที่เหลือคือโทเคน ERC-20 อย่าง Basic Attention Token (BAT) และ Augur (REP)
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง : CZ เผย แม้ DeFi คืออนาคต แต่ตอนนี้ผู้คนยังนิยมเว็บเทรดแบบเก่ามากกว่า