Ajay Banga ซีอีโอ มาสเตอร์การ์ด (Mastercard) ได้ให้สัมภาษณ์กับทาง Financial Times อธิบายความกังวลเกี่ยวกับ Libra โดยเน้นไปที่การขาดความโปร่งใส โดยก่อนหน้านี้ มาสเตอร์การ์ดเคยเป็นหนึ่งในสมาชิกผู้ก่อตั้งสมาคม Libra พร้อมกับ Visa, PayPal และ Stripe แต่เมื่อเดือนตุลาคม ปีที่แล้ว ทั้ง 4 บริษัทได้ถอนตัวไป โดยเชื่อกันว่าเป็นเพราะการถูกกดดันของหน่วยงานกำกับดูแล
โดยทางซีอีโอ มาสเตอร์การ์ด เผยว่า การที่จะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบ อาจจะเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ตัดสินใจถอนตัวจากสมาชิกหลักในสมาคม Libra ไปอย่างกะทันหัน เนื่องจาก “ไม่สอดคล้องกับกฎหมายในท้องถิ่น” ในเรื่องการต่อต้านการฟอกเงิน, KYC และกฎในการจัดการกับข้อมูล
นอกจากนี้ ยังมีข้อกังวลอีกเรื่อง ก็คือ รูปแบบธุรกิจของ Libra ที่ไม่ได้บอกไว้อย่างชัดเจนว่าจะสร้างรายได้อย่างไร รวมถึงวิธีการนำเสนอที่มีความไม่สอดคล้องกันบางอย่าง ถึงแม้ว่า Libra จะวางตำแหน่งตัวเองเป็นเครื่องมือทางการเงิน แต่การใช้กระเป๋าเงิน Calibra ก็ดูจะไม่ถูกต้องเท่าไหร่นัก
สำหรับเรื่องความเท่าเทียมในการเข้าถึงบริการทางการเงินนั้น โดยทั่วไปทางรัฐบาลจะจ่ายเงินให้คุณด้วยสกุลเงินที่เป็นที่รู้จัก และสามารถนำมันไปใช้แลกเปลี่ยนได้ แต่หากได้รับเงินเป็น Libra จะต้องนำมันไปแลกเปลี่ยนซื้อของอย่างไร มันจะทำงานอย่างไร
Banga ยังมองว่า ต้นทุนทางเศรษฐกิจของการสร้างระบบการชำระเงินในโลกที่ผู้คนสามารถเดินทางไปได้ทั่วโลกนั้นเป็นเรื่องที่โง่มาก และเทคโนโลยีที่เป็นระดับสากลนั้นโง่ยิ่งกว่าเดิมสามเท่า
โดยเขาได้อ้างถึงประเทศฝรั่งเศส ออสเตรเลีย บราซิล และเม็กซิโก ที่ทางรัฐบาลพยายามสร้างระบบการชำระเงินว่า แนวคิดในการหาวิธีที่จะควบคุมประเทศเกี่ยวกับการชำระเงินนั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่มันเป็นจินตนาการที่เกิดขึ้นมานานแล้ว
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง : นักเศรษฐศาสตร์ระดับโลกมอง “Libra” เป็นเหตุให้โลกย้อนมองเงิน “ดอลลาร์สหรัฐฯ” เป็น “สกุลเงินสำรอง” ของโลกอีกครั้ง