ตลาดคริปโตสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาร้อนแรงจากการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องของราคาทั้งพี่ใหญ่อย่าง BTC รวมถึง ETH และ Altcoin อื่น ๆ เช่นเดียวกับเหรียญที่อยู่ในโปรเจกต์ DeFi
รวมถึงราคาทองคำล่าสุดได้พุ่งแตะระดับ 1,920 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดเดิมก่อนหน้าได้สำเร็จ สวนทางกับค่าเงิดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง นี่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้การลงทุนทางเลือกเป็นเป้าหมายของการลงทุนเพื่อหนีผลตอบแทนจากพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯที่ติดลบ
BTC ในไทม์เฟรมระดับ Week เห็นได้ว่าราคาได้ Breakout เทรนด์ไลน์ขากดที่ลากลงมาตั้งแต่จุดสูงสุดเดิมที่ระดับ 20,000 ดอลลาร์ได้สำเร็จ หากยังสามารถยืนอยู่ในระดับเหนือเส้นเทรนด์ไลน์นี้ได้ BTC มีโอกาสที่จะเป็นขาขึ้นรอบใหญ่ได้
แนวต้านต่อไปหากผ่านระดับ 10,500 ดอลลาร์ไปได้คือที่ระดับ 11,505 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นแนวต้านตามแนว Fibonacci และจุดสูงสุดเดิม และหากผ่านไปได้ก็จมีแนวต้านต่อไปที่ 13,514 ดอลลาร์
แต่หากไม่สามารถยืนเหนือเส้นเทรนด์ไลน์ได้และร่วงลงมา BTC อาจเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบสามเหลี่ยมที่มีเทรนด์ไลน์ด้านล่างเป็นแนวรับ หรือใช้แนวรับตามแนว Fibonacci ที่ 7,000 ดอลลาร์
บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง : ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯแพ้เงินเฟ้อ ผลักดันให้นักลงทุนเข้าหาสินทรัพย์เสี่ยง
ขณะที่ ETH ในไทม์เฟรมระดับ Week จะเห็นว่าที่ระดับ 321 ดอลลาร์ ถือเป็นแนวต้านสำคัญที่ทำให้ Ethereum เคลื่อนไหวเป็นไซด์เวย์มายาวนานสองปีตั้งแต่กรกฎาคม 2018 โดยมีแนวรับสำคัญที่ 75 ดอลลาร์ ซึ่งสามารถรับอยู่มาแล้วสองครั้ง
หากผ่านระดับ 321 ดอลลาร์ไปได้ แนวต้านสำคัญที่ต้องผ่านไปให้ได้คือ 400 ดอลลาร์ ตามแนว Fibonacci และเป้าหมายต่อไปจะอยู่ที่ 600 ดอลลาร์
แรงผลักดันให้ราคา ETH ปรับตัวขึ้นร้องแรงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาคือกระแสของ DeFi ที่เติบโตขึ้นอย่างร้อนแรง มีมูลค่าเหรียญที่ถูกล็อกไว้แตะระดับ 5,000 ล้านดอลลาร์เป็นที่เรียบร้อย เติบโตกว่า 5 เท่าตั้งแต่ต้นปี
รวมถึงการมาของ ETH2.0 ที่เริ่มมีการทดสอบในครั้งสุดท้ายแล้วก่อนที่จะเปิดใช้งาน (Madella Testnet) โดยการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญคือการเปลี่ยนจาก Proof of Work มาเป็น Proof of Stake
บทความที่เกี่ยวข้อง : Decentralized Finance เทคโนโลยีที่จะมาแทนที่ธนาคาร?
ขณะที่ดัชนี SCN30 Index ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 196.21 ซึ่งใกล้ที่จะถึงจุดสูงสุดเดิมในปีนี้ที่ระดับ 207 จุด แรงผลักดันส่วนใหญ่มาจาก ETH ซึ่งมีสัดส่วนในดัชนีสูงสุด รวมถึงการผรับตัวขึ้นของ ADA ซึ่งเป็นเหรียญที่มีอัตราเติบโตสูงในปีนี้จนขึ้นมามีอันดับในดัชนี SCN30 ที่ระดับ 4
บทความที่เกี่ยวข้อง : บิทคอยน์-ลิบรา-หยวนดิจิทัล ใครจะได้ปกครองระบบการเงินโลกใหม่
