ในช่วงไม่ถึงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาของบิทคอยน์มีการปรับฐานโดยลดลงจากระดับเกือบ 62,000 ดอลลาร์สหรัฐ เป็น 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือลดลงถึง 20% ก่อนที่จะฟื้นตัวขึ้นมา 10% อยู่ที่ระดับ 55,000 ดอลลาร์สหรัฐ ณ ช่วงที่เขียนรายงานฉบับนี้ (เวลา 6.00 น. ตามเวลาในสหราชอาณาจักร)
ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวของเทสลาในช่วงสัปดาห์ที่แล้วที่ประกาศว่า จะยอมรับการชำระเงินด้วยบิทคอยน์สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าช่วยผลักดันให้ราคาบิทคอยน์ปรับตัวขึ้นไประยะหนึ่งก่อนที่จะเห็นว่าสกุลเงินดังกล่าวปรับตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่ 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ
นักวิเคราะห์มองว่า ปัจจัยพื้นฐานระดับมหภาคสำหรับ บิทคอยน์นั้นยังแข็งแกร่ง ขณะที่ผู้สนับสนุนบางราย เช่น Michael Saylor และ Elon Musk ได้ปูทางสู่การนำคริปโตเคอร์เรนซีมาใช้ทั้งในระดับสถาบันและบริษัทองค์การ ขณะเดียวกันก็มีหลักฐานที่เห็นได้ชัดว่า บริษัทต่างๆ ต่างออกมาประกาศยอมรับและให้การสนับสนุนบิทคอยน์ในฐานะตัวเก็บสำรองสินทรัพย์ที่มีมูลค่ามากขึ้น
อย่างไรก็ตาม เราสงสัยว่าวาฬหรือนักลงทุนรายใหญ่ในตลาดคริปโตอาจสูญเสียการถือครองในตลาดค้าปลีกหรือสถาบันในไม่ช้า โดยขณะที่ ราคาของบิทคอยน์เพิ่มขึ้น เราควรคาดหวังความผันผวนที่ลดลง ซึ่งจะเพิ่มความน่าสนใจของบิทคอยน์ให้เป็นทางเลือกที่ดีกว่าทองคำ
ทั้งนี้ การฮาล์ฟวิ่งของบิทคอยน์ครั้งต่อไปจะมีขึ้นในเดือนมีนาคมปี 2024 ทำให้คาดการณ์ได้ว่าจะมีการแข่งขันเพื่อสะสมบิทคอยน์ให้ได้มากที่สุด และในท้ายที่สุดแล้ว กลไกเศรษฐศาสตร์พื้นฐานของอุปสงค์และอุปทานจะกำหนดว่าการเพิ่มขึ้นของราคาบิทคอยน์อย่างรวดเร็วเมื่อใกล้ถึงปี 2024
(*หมายเหตุ : Shakeout คือสภาพเศรษฐกิจที่ส่งผลให้เกิดการกำจัดผู้เข้าร่วมทุนรายเล็กรายน้อยในอุตสาหกรรม )
