แม้ Bitcoin (BTC) จะทำผลงานได้เป็นที่น่าพอใจในช่วงปลายเดือนตุลาคมนี้ มีการขยับตัวขึ้นมาต่อเนื่องและยืนเหนือระดับ $13,000 ได้ติดต่อกันมาเกือบหนึ่งสัปดาห์แล้ว แต่ดูเหมือนความไม่แน่นอนของตลาดโลกก็ยังคอยฉุดตลาดคริปโตลงอยู่เสมอ ๆ โดยเฉพาะกับตลาด Altcoins
ล่าสุด Bitcoin โดนเทขายอีกครั้งที่บริเวณ 13,680 ดอลลาร์หลังฟื้นตัวมาได้เพียงชั่วคราว ร่วงลงกว่า 500 ดอลลาร์ในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง ตลาดหุ้นทั่วโลกก็ดูไม่สดใสนัก โดย SET ของไทยหลุด 1,200 จุดไปเรียบร้อยแล้ว ขณะที่ NIKKEI ปรับตัวร่วงลง 344 จุด ปิดตลาดไปที่ 22,977 จุด ในด้านของตลาดหุ้นสหรัฐฯที่ยังไม่เปิดทำการ ตลาดฟิวเจอร์ส Dow Jones มีการย่อตัวลงเล็กน้อยประมาร 135 จุด ซื้อขายกันอยู่ที่บริเวณ 26,260 จุด ณ ขณะที่เขียนบทความนี้
อย่างไรก็ตาม ตลาดที่เจ็บหนักที่สุดในเวลานี้น่าจะหนีไม่พ้นเหล่า Altcoins ที่ยังคงโดนกลืนมูลค่าตลาดไปโดย Bitcoin อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด BTC มีส่วนแบ่งตลาด (Market Dominance) เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แตะจุดสูงสุดในรอบหลายเดือนไปแล้วที่ 64.72%
Image Courtesy: Coin360
เหรียญ Altcoins ที่มีมาร์เก็ตแคปมากที่สุดสิบอันดับแรกที่เจ็บหนักที่สุดดูเหมือนจะเป็น Binance Coin (BNB) โดยมีมูลค่าลดลงถึง 7.89% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ซื้อขายกันอยู่ที่ 27.73 ดอลลาร์ ตามมาด้วย Chainlink (LINK) ลดลง 5.75% ซื้อขายกันอยู่ที่ 10.80 ดอลลาร์ ขณะที่พี่ใหญ่อย่าง Ethereum (ETH) ปรับตัวลดลง 3.36% ราคาอยู่ที่ 374.58 ดอลลาร์
ขณะที่ตลาด DeFi นั้นดูเหมือนจะกลับเป็นขาลงอย่างเต็มตัวไปแล้ว อดีตเหรียญตัวท็อปที่เคยสร้างความฮือฮาให้แก่วงการคริปโตอย่าง Yearn.Finance (YFI) นั้นล่าสุดหลุดระดับ 10,000 ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะที่อีกหนึ่งเหรียญขวัญใจสาย DeFi อย่าง SushiSwap (SUSHI) ก็ร่วงลงทำโลว์ใหม่ที่ราคา 0.59 ดอลลาร์ ลดระดับจากโอมากาเสะมาเป็นซูชิตลาดนัดเร็วจนน่าใจหาย
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้นักลงทุนทั่วโลกต่างแตกตื่นและสูญเสียความมั่นใจในการลงทุนไป ณ ขณะนี้ นอกจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯที่กำลังจะมีขึ้นมาในเดือนหน้า คงจะหนีไม่พ้นวิกฤตโควิด-19 ที่ยังคงระบาดอย่างหนักในหลายภูมิภาคทั่วโลก
Image Courtesy: https://www.worldometers.info/coronavirus/
ล่าสุด ประเทศที่ดูเหมือนจะเคยเอาอยู่ในภูมิภาคยุโรปอย่างอังกฤษ ฝรั่งเศส สเปน อิตตาลี และเยอรมันนีก็มีตัวเลขผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นระดับหลายหมื่นรายต่อวันอีกครั้ง ประกอบกับในสหรัฐอเมริกาที่ล่าสุดมีผู้ติดเชื้อรายวันแตะหนึ่งแสนคนหลังลดลงไปได้ซักพักก่อนหน้านี่
นี่ทำให้เมื่อวันที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมา เป็นวันที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ที่ 545,000 รายภายในวันเดียว! ส่งผลให้ความหวังว่าทุกอย่างจะกลับมาเป็นปรกติและเศรษฐกิจจะฟื้นตัวในปี 2021 นั้นริบหรี่ลงอีกครั้งและหลายประเทศอาจต้องกลับมาใช้มาตรการล็อคดาวน์ที่เข้มงวดอีกซึ่งจะเป็นการทำลายภาคธุรกิจที่พึ่งเริ่มจะฟื้นตัวให้ดำดิ่งลงไปอีกอย่างแน่นอน
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง: ทำไม “ธนาคาร” ถึงต้องวิ่งเข้าหาสกุลเงินดิจิทัล
