- ในขณะที่ เมื่อ 6 เดือนที่แล้ว อัตราเงินเฟ้อเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับเศรษฐกิจสหรัฐฯ การรุกรานยูเครนของรัสเซีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรุกรานยูเครนที่กว้างขวางที่สุดเท่าที่กำลังจะเกิดขึ้นในขณะนี้ กลับถูกไตร่ตรองน้อยกว่า
- อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ลดลง และความไม่แน่นอนที่มากขึ้นล้วนเป็นปัจจัยที่เกิดขึ้นเพื่อสร้างความท้าทายต่อผู้กำหนดนโยบายของเฟดโดยเฉพาะ ที่จนถึงขณะนี้ได้ตั้งเป้ากำหนดที่จะเข้าสู่นโยบายสายเหยี่ยวเรียบร้อยแล้ว
บางทีมันอาจจะเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล แต่หลักคำสอนเรื่อง “สภาพคล่อง” ของนโยบายการเงินของเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจเป็นสิ่งที่สหรัฐฯและเศรษฐกิจโลกต้องการในขณะนี้
ในขณะที่ เมื่อ 6 เดือนที่แล้ว อัตราเงินเฟ้อเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับเศรษฐกิจสหรัฐฯ การรุกรานยูเครนของรัสเซีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรุกรานยูเครนที่กว้างขวางที่สุดเท่าที่กำลังจะเกิดขึ้นในขณะนี้ กลับถูกไตร่ตรองน้อยกว่า
บรรดาผู้จัดการการเงินของตลาดวอลล์สตรีทต่างดิ้นรนเพื่อหาว่าผลกระทบทางการเมืองจะส่งผลกระทบต่อการซื้อขายข้ามสินทรัพย์ทุกรูปแบบในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าอย่างไร และข้อมูลในปัจจุบันที่ยังคงเว้นว่างนี้จะนำไปสู่ความผันผวนในตลาดมากขึ้น
ด้วยความที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะประชุมกันในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้ เพื่อขึ้นอัตราดอกเบี้ยไม่มากก็น้อยตามความคาดหมาย กระนั้นก็ยังมีโอกาสที่ปัจจัยจากภายนอกจะส่งผลให้เฟดยังคงต้องใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพื่อรักษาระดับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ลดลงและความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวได้
ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ลดลง และความไม่แน่นอนที่มากขึ้นล้วนเป็นปัจจัยที่เกิดขึ้นเพื่อสร้างความท้าทายต่อผู้กำหนดนโยบายของเฟดโดยเฉพาะ ที่จนถึงขณะนี้ได้ตั้งเป้ากำหนดที่จะเข้าสู่นโยบายสายเหยี่ยวเรียบร้อยแล้ว
ทว่าการคว่ำบาตรของตะวันตกและโอกาสที่ประธานาธิบดีปูตินของรัสเซียจะไม่หยุดอยู่แค่ยูเครน แต่จะคืบคลานไปสู่ประเทศอดีตสหภาพโซเวียตอื่นๆ จนเข้าไปพัวพันกับยุโรปทั้งทวีป ลุกลามกลายเป็นความขัดแย้งที่ขยายวงกว้างมากขึ้นก็เพียงพอแล้วสำหรับผู้กำหนดนโยบายที่จะต้องดำเนินการตามนโยบายที่ยืดหยุ่นต่อไป
ความเสี่ยงจากภาวะถดถอยในยุโรปเพิ่มขึ้น และพาวเวลล์มีความเห็นมานาน (อย่างถูกต้อง) ว่านโยบายการเงินเป็นเครื่องมือที่ตรงไปตรงมาเพื่อรองรับแรงกดดันด้านราคาเงินเฟ้อ
ในทางกลับกัน เป็นไปได้อย่างยิ่งที่ประธานพาวเวลล์และคณะกรรมการเฟดจะเพิ่มอัตราดอกเบี้ย บางทีอาจต่ำถึง 0.25% ในขณะที่รัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน ก็มุ่งทำงานเพื่อนำอุปทานน้ำมันของอิหร่านและแหล่งสำรองทางยุทธศาสตร์ทางออนไลน์สำหรับรั้งราคาพลังงานที่อาจส่งผลต่อเงินเฟ้อไม่ให้เพิ่มสูงขึ้น