บิทคอยน์ ยังคงพุ่งต่ออย่างร้อนแรงกว่า 12% แตะระดับ 11,500 ดอลลาร์ และยังได้นำทีมเหรียญน้องที่เกิดจากการ Hard Fork อย่าง LTC,BCH,BSV พุ่งตามหลังฟอร์มแผ่วมานาน
จากกราฟ บิทคอยน์ พุ่งชนแนวต้านตามแนว Fibonacci ที่ 11,500 แล้วมีการย่อตัวแต่ยังสามารถยืนเหรือระดับ 10,500 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของปีนี้รวมถึงเส้นเทรนด์ไลน์ที่เพิ่ง Breakout ได้ โดยใครที่ยังไม่ได้ซื้อสามารถใช้แนวดังกล่าวเป็นแนวรับในการซื้อได้หากราคามีการย่อตัว
ขณะที่ดัชนี SCN30 Index ปรับตัวขึ้น 10.88 จุด แตะระดับ 207.09 ซึ่งเป็นจุดสูงสุดเดิมของปีนี้ได้สำเร็จ โดยเหรียญที่ปรับตัวขึ้นโดดเด่นคือกลุ่มที่ Hard Fork ออกมาจากบิทคอยน์อย่าง Litecoin,Bitcoin Cash รวมถึง Bitcoin SV โดยปรับตัวขึ้นระดับ 10%
ส่วนเหรียญที่ปรับตัวขึ้นแรงในช่วงก่อนหน้านี้อย่าง ADA,LINK และ XLM ถูกเทขายทำกำไรออกมา ขณะที่มูลค่าเหรียญที่ถูกล๊อกไว้ในโปรเจคต์ Defi เริ่มชะลอตัวลง โดยยังมีมูลค่าอยู่ที่ 3,620 ล้านดอลลาร์
วิเคราะห์กราฟ LTC มีเป้าหมายแรกในการขายทำกำไรที่ 64.5 ซึ่งเป็นระดับเดิมก่อนที่จะถูกเทขายในช่วง Black Thursday หากผ่านไปได้จะมีแนวต้านที่ 70 ดอลลาร์และเป้าหมายสำคัญคือการขึ้นไปทดสอบราคาสูสุดของปีนี้ที่ระดับ 84 ดอลลาร์
BCH กำลังจะ Breakout แนวต้าน 272 ดอลลาร์ หากผ่านไปได้จะทำให้พ้นกรอบราคาที่เป็นไซด์เวย์มาตั้งแต่หลังเกิด Black Thursday หากผ่านไปได้ยังมีแนวต้านที่ต้องฝ่าอีกหลายชั้น โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ 500 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของปีนี้
ขณะที่ BSV หลังจากถูกเก็งกำไรขึ้นไปอย่างร้อนแรงเมื่อช่วงต้นปีจากเรื่องคดีของนาย Craig Wright หลังจากน้นราคาร่วงลงเป็นขาลงมาโดยตลอด เบื้องต้นจะต้องฝ่าแนวต้านที่ 225 ดอลลาร์ ไปให้ได้ จากนั้นถึงมองที่จะขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดเดิมของปีนี้ที่ 500 ดอลลาร์
สำหรับนักเทรดที่ตกรถไม่ได้ซื้อคริปโตเลยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เหรียญทั้งสามคือ LTC,BCH และ BSV ถือว่าน่าสนใจในการลงทุนเพราะปรับตัวขึ้นช้ากว่าเหรียญอื่นโดยเฉพาะกลุ่ม ETH และ Defi ถ้า บิทคอยน์ ยังคงขึ้นต่อได้ เหรียญทั้งสามก็ยังมีโมเมนตัมในการปรับตัวขึ้นตาม
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง : Stablecoin ที่มีทองหนุนหลังโตก้าวกระโดดหลังราคาทองคำทำจุดสูงสุดตลอดกาล