จากการศึกษาของนาย Alex De Vries นักวิจัยการลงทุนผู้ก่อตั้งนิตยสารคริปโตเคอร์เรนซี่ออนไลน์ Digiconomist เปิดเผยถึงผลกระทบของการใช้ พลังงาน ในการขุด บิทคอยน์ รวมไปถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของโลก โดยนาย Alex De Vries อ้างว่า การส่งบิทคอยน์หนึ่งครั้งใช้พลังงานไฟฟ้าเทียบเท่าจำนวนไฟที่หนึ่งครัวเรือนใช้เป็นเวลาถึงสองเดือนเลยทีเดียว
ธุรกิจการขุดบิทคอยน์นั้นเป็นที่ถกเถียงกันมานานแล้วถึงจำนวนพลังงานมหาศาลที่มันต้องใช้ในทุกวัน โดยในหนึ่งปี การขุดบิทคอยน์ทั้งโลกใช้พลังงานถึงกว่า 78 เทราวัตต์ เพื่อให้เห็นภาพได้ง่ายยิ่งขึ้น นั่นเทียบเท่ากับประเทศขนาดกลาง ๆ อย่าง ชิลีหรือโรมาเนีย ใช้ทั้งปีเลยทีเดียว และยังมีรายงานอีกว่า การส่งบิทคอยน์หนึ่งครั้ง ใช้พลังงานเทียบเท่าการดูยูทูปยาวนานถึง 52,000 ชั่วโมง และในปริมาณพลังงานที่เท่ากัน บริษัท Visa สามารถประมวนผลธุรกรรมได้ถึง 780,000 รายการเลยทีเดียว
โดยนาย De Vries ให้เหตุผลว่า ความสิ้นเปลืองที่เกิดขึ้นนี้มาจากอุปกรณ์เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการขุดกว่า 98% ไม่ได้มีส่วนในการตรวจสอบธุรกรรมใด ๆ โดยมีเพียง 2% ที่ทำงานได้เร็วพอและสามารถถอดรหัสเพื่อเป็นผู้เพิ่มบล็อกถัดไปลงไปบนบล็อกเชนได้ ที่แย่ไปกว่านั้นก็คือ ธุรกิจการขุดบิทคอยน์นี้ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในประเทศจีน ซึ่งใช้พลังงานจากถ่านหินที่ก่อมลพิษสูงเป็นหลัก
อย่างไรก็ตาม ทั้งทาง Cointelegraph และ Coinshare เคยทำวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ และผลที่ออกมานั้นขัดแย้งกับผลการศึกษาของนาย De Vries โดยอ้างว่าความเป็นจริงแล้ว ธุรกิจการขุดบิทคอยน์กำลังหันไปใช้พลังงานทดแทนมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะพลังลมและพลังน้ำ
มีการคาดการณ์อย่างคร่าว ๆ ว่า ต้นทุนในการขุดบิทคอยน์หนึ่งเหรียญในประเทศจีน อยู่ที่ประมาน 3,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ค่าเฉลี่ยทั่วโลกอยู่ที่ประมาณ 6,000 ดอลลาร์ อันมีผลมาจากการที่จีนให้การสนับสนุนพลังงานธรรมชาติส่วนเกินและพลังงานหมุนเวียน ทำให้มีต้นทุนในการขุดที่ถูกลง โดยพลังงานที่ใช้ในมณฑลเสฉวนกว่า 90% นั้นเป็นพลังงานหมุนเวียนที่ก่อให้เกิดมลพิษต่ำ และกำลังการขุดบิทคอยน์กว่าครึ่งนั้น ก็ตั้งอยู่ในมณฑลเสฉวนแห่งนี้
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง: อีกความสำเร็จหนึ่งของบิทคอยน์เมื่อยอดการทำธุรกรรมทะลุ 500 ล้านครั้งไปแล้ว