ตั้งแต่ที่ มูลค่าของบิทคอยน์ปรับเพิ่มขึ้น 3 เท่าตั้งแต่ทะลุระดับ 20,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเดือนธันวาคม 2020 จนถึงปัจจุบันนี้ บรรดาสกุลเงินดิจิทัลทางเลือกหรือ altcoins หลายตัวต่างก็สดใสจากผลตอบแทนที่ดี อีกทั้งยังพิสูจน์ให้เห็นว่าโปรเจ็ตที่มีคุณภาพของตนกำลังได้รับความสนใจอย่างที่สมควรจะได้รับ
งานนี้ ทีมงานของ SuperCryptoNews จึงได้รวบรวมไฮไลท์ของบางโปรเจ็กต์ของสกุลเงินดิจิทัลที่น่าสนใจไว้ในบทควาทฉบับนี้ ซึ่งความเห็นที่ระบุในบทความนี้ไม่ได้เป็นองค์ประกอบของคำแนะนำเพื่อการลงทุนแต่อยางใด
เริ่มต้นกันด้วยคู่แข่งหน้าใหม่อย่าง Solana ซึ่งโม้กันว่าได้รองรับการทำธุรกรรมถึง 50,000 ครั้งต่อวินาทั ซึ่งล่าสุด มีการรองรับ USD Tether บนบล็อกเชน ขณะที่การสนับสนุนของ Chainlink ยังช่วยเสริมให้ Solana เป็น Ethereum-beater ที่กำลังจะมา
ด้าน Binance Smart Chain และ BNB token ไม่จำเป็นต้องแนะนำใดๆ ให้ยุ่งยาก ซึ่งการเปิดตัวโดย Binance เพื่อเป็นเสมือนกระจกเงาของ Ethereum โครงสร้างค่าธรรมเนียมที่ต่ำนี้ได้ดึงดูดนักพัฒนา Ethereum ที่มองหาทางเลือกที่ใกล้เคียงเพื่อหลีกเลี่ยงค่าธรรมเนียมที่สูงซึ่งเรียกเก็บโดย Ethereum บล็อกเชนในปัจจุบัน ส่วนตัว DEX ยอดนิยมอย่าง PancakeSwap and Alice ซึ่งเป็นเกมที่สร้างผู้เล่นหลายคนที่มีโทเค็นบนเครือข่าย Binance ช่วยผลักดันให้มีการนำ Binance Smart Chain มาใช้
ด้านบล็อกเชน ChainLink ก็ได้รับการยอมรับมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยการประยุกต์ใช้งานของเลเยอร์บล็อกเชนแอพพลิเคชั่นทั้งหลาย ปัจจุบัน ChainLink เป็นผู้นำตลาด (ในแง่ของ Market Cap) สำหรับบริการให้คำปรึกษาไปจนถึง Smart Contract สำหรับผู้ให้คำปรึกษาเป็นบทบาทที่สำคัญในฐานะสะพานเชื่อมโยงระหว่างโลกที่ไม่มีคนกลางและจักรวาลอันกว้างใหญ่ของข้อมูล
Uniswap ซึ่งเป็น DEX ที่ใหญ่ที่สุดในแง่ของมูลค่าตลาดของตลาดโทเค็นแล้ว ยังเป็นที่ชื่นชอบสำหรับนักลงทุนโทเคนและโครงการ DeFi หน้าใหม่มากมาย เพื่อใช้ประโยชน์จากโทเค็นและหนุนสภาพคล่องให้กับชุมชนคริปโต โดย Uniswap แตกต่างจากการแลกเปลี่ยนคริปโตแบบcentralized ซึ่งต้องมีการกำกับดูแลและการอนุมัติในการจัดการเพื่อแสดงรายการโทเค็นตรงที่ Uniswap มีการบังคับใช้หลักการของการกระจายอำนาจ(decentralized) และอนุญาตให้ทุกคนแสดงรายการโทเค็นได้
ด้าน Celer Network เป็นโซลูชันการปรับขนาด layer 2 ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อเปลี่ยนงานส่วนใหญ่ไปสู่ความเห็นพ้องต้องกันนอกเชนเพื่อให้บรรลุเครือข่ายบล็อกเชนที่รวดเร็วและปรับขนาดได้ ซึ่งการตอบสนองในกลุ่มตลาดเฉพาะ (niche market) อย่างกลุ่ม eSports และเกม น่าจะทำให้ผลตอบแทนปันผลจากการผลักดันจากการใช้ของเหล่านักพัฒนามากขึ้น
สุดท้าย แต่ไม่ท้ายสุด Ethereum ที่แม้จะถูกมองว่าเป็นบล็อกเชนที่“ น่าเบื่อ” เนื่องจากรอการเปิดตัว ETH2 อยู่ แต่ก็มีการขยับปรับขึ้นในระดับที่เรียกความสนใจจากนักลงทุนสถาบัน และนักพัฒนามาเรื่อยๆ หลังจากที่เฟส 0 ของ ETH2 ได้เปิดตัว โดย Ethereum บี
คงมีนักพัฒนาจำนวนเข้ามาร่วมเขียน smart contracts บน ETH แถมเมื่อไม่นานมานี้ ทาง Visa ยังประยุกต์ใช้ Ethereum เพื่อให้บริการการชำระธุรกรรมโดยใช้เหรียญ USD (USDC) โดยสถานะ Ethereum ในฐานะบล็อกเชนสัญญาอัจฉริยะชั้นนำ จะเสริมความแข็งแกร่งในไม่ช้า เพราะกำลังก้าวไปสู่การเปิดตัว ETH2 ในอีกไม่กี่เฟสถัดไป
