“ทรีนีตี้” เดินหน้าวิสัยทัศน์ พัฒนาผลิตภัณฑ์การลงทุนเพื่อลูกค้า มุ่งมั่นส่งผลตอบแทนที่เหมาะสมให้นักลงทุน ล่าสุดร่วมมือ Bitkub ชวนลูกค้าลงทุน Cryptocurrency สินทรัพย์ดิจิทัล ตามเทรนด์สมัยใหม่ ด้าน ดร.วิศิษฐ์ ย้ำ ความผันผวนราคาสินทรัพย์ทั่วโลกทำให้การจัดสรรเงินลงทุน (Asset Allocation) ในสินทรัพย์ต่าง ๆ มีความจำเป็น แนะจัดพอร์ตลงทุน 6 สินทรัพย์ พร้อมเปิดผลตอบแทนการลงทุนตั้งแต่ต้นปี 63 Bitcoin ให้ผลตอบแทนสูงกว่า 53% ตามด้วยทองคำ 32% ส่วนหุ้นไทยติดลบ 14.7%
ล่าสุด บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ได้ร่วมมือกับคุณจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้ง พัฒนาความรู้ การลงทุนใน Cryptocurrency ที่ถูกต้องให้กับนักลงทุน โดยอาศัยบทวิจัยและบทวิเคราะห์ทางเชิงปริมาณเพื่อเป็นแนวทางให้กับนักลงทุนในการจัดการสินทรัพย์ประเภทการลงทุนทางเลือก (Alternative Investment) เพื่อเป็นการต่อยอดของการจัดการสินทรัพย์ โดยเชิญชวนลูกค้าและนักลงทุน ให้กระจายความเสี่ยง มาลงทุนใน Cryptocurrency ซึ่งเป็นสินทรัพย์ดิจิทัล ที่เป็นเทรนด์การลงทุนสมัยใหม่ ซึ่งนักลงทุนทั่วโลกให้ความสนใจและมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว
คุณจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้ง
สำหรับความร่วมมือธุรกิจในครั้งนี้บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด จะเป็นผู้แนะนำลูกค้า เพื่อเปิดบัญชีซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลกับศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล บิทคับ ออนไลน์ รวมถึงมีแผนงานจะจัดกิจกรรมร่วมกันในการให้ความรู้เกี่ยวกับ สินทรัพย์ดิจิทัล (Cryptocurrency)ให้แก่ลูกค้าและนักลงทุนทั่วไป เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เกิดขึ้นไม่นาน นักลงทุนส่วนใหญ่ยังไม่มีข้อมูล และความรู้ในเรื่องนี้มากนัก ดังนั้นการให้ความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับสินทรัพย์และการลงทุนใน Cryptocurrency จึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง
โดยทรีนีตี้ ได้แนะนำให้นักลงทุนแบ่งสัดส่วนการลงทุนดังนี้ คือ 1. ลงทุนในตลาดหุ้นไทย สัดส่วน 20% เพราะตลาดหุ้นไทยมีความโดดเด่นเรื่องผลตอบแทนจากเงินปันผล 2. ลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ สัดส่วน 15% โดยเน้นน้ำหนักลงทุนในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและอาหาร 3. ลงทุนในตราสารหนี้ที่มีคุณภาพ สัดส่วน 30% เพื่อที่จะรับกระแสเงินสดจากดอกเบี้ยสม่ำเสมอ 4. ลงทุนในทองคำ สัดส่วน 5-10% เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงในสหรัฐฯที่ติดลบ จะส่งผลดีต่อราคาทองคำ 5. ถือเงินสด 25% เพื่อรอจังหวะซื้อสินทรัพย์ในช่วงที่มีราคาถูก และ 6. ลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก (Alternative Investment) เช่น Bitcoin หรืออื่นๆ ในสัดส่วน 1-5%
“ในปี 2020 การลงทุนใน Bitcoin ให้ผลตอบแทนกว่า 53% นับตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน ส่วนการลงทุนทองคำในรูปเงินบาท ให้ผลตอบแทนกว่า 32% หุ้น NASDAQ ที่ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเทคโนโลยีให้ผลตอบแทน 19% หุ้นจีน ให้ผลตอบแทน 7% ขณะที่หุ้นไทยให้ผลตอบแทนติดลบ 14.7% และ Thai REIT ให้ผลตอบแทนติดลบมากถึง 20.4%”
ทรีนีตี้มองว่า การจัดสรรเงินลงทุนใน Cryptocurrency ในระดับ 1-5% เป็นการกระจายความเสี่ยงของการลงทุน เนื่องจาก Cryptocurrency มีความสัมพันธ์ที่มีสหพัทธ์หรือ Correlation กับราคาสินทรัพย์อื่น ๆ ในระดับต่ำ และปัจจุบันความผันผวนของสินทรัพย์ของ Cryptocurrency ได้ลดลงมาในระดับ 50% ซึ่งพอรับได้ในฐานะที่เป็นสินทรัพย์ทางเลือก เมื่อเปรียบเทียบกับความผันผวนในอดีตที่ระดับ 80-90%
ทั้งนี้ ทรีนีตี้ เป็นบริษัทหลักทรัพย์ที่มีประสบการณ์ดำเนินธุรกิจหลักทรัพย์มากว่า 20 ปี ขณะที่ Bitkub เป็นบริษัทมีความเชี่ยวชาญด้านสินทรัพย์ดิจิตอล ในเรื่องของ Cryptocurrency และเป็นศูนย์ซื้อขายหลักทรัพย์ Cryptocurrency ที่มีสภาพคล่องสูงที่สุดของประเทศไทย เรามีความเชื่อมั่นว่าจากความร่วมมือกันในครั้งนี้ จะสร้างประโยชน์ให้แก่นักลงทุนได้มีแนวทางการลงทุนที่หลากหลายมากขึ้น จากผู้เชี่ยวชาญทั้งสายหลัก (หุ้น ตราสารหนี้) และสายทางเลือก (Cryptocurrency)
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง: โปรเจกต์ที่สร้างบนบล็อกเชนของ Ethereum ให้ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีเฉลี่ยถึง 130%