Business Insider Intelligence ผู้ให้บริการข้อมูล ข่าวสาร และการวิเคราะห์ทางธุรกิจ เปิดเผยข้อมูลการสำรวจวิจัยถึงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนของสถาบันการเงินและประเด็นต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง พบว่า โดยส่วนมากนั้นสถาบันการเงินได้ให้ความสำคัญและมุ่งเน้นการใช้ บล็อกเชน พัฒนาด้าน การชำระเงิน มากที่สุด
นวัตกรรมสุดล้ำ ที่จะมาเปลื่ยนแปลงอุตสาหกรรมการเงิน
“บล็อกเชน” มีกระบวนการทำงานแบบ Decentralized Network ที่สามารถเชื่อมต่อกันผ่านเครือข่ายที่มีการกระจายศูนย์ได้อย่างอิสระ ซึ่งจะส่งผลให้ดำเนินการเป็นไปได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และไม่มีพรมแดน ปัจจัยเหล่านี้ทำให้มันมีความโดดเด่นและเหมาะสมอย่างยิ่งในการนำมาประยุกต์ใช้สนับสนุนการดำเนินการต่าง ๆ ในภาคอุตสาหกรรมการเงิน
จากผลการวิจัยพบว่าร้อยละ 66 ของสถาบันการเงินที่เข้าร่วมการสำรวจได้ให้ความสำคัญกับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนในด้านบริการชำระเงินมากที่สุด ตามมาด้วยการชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ การป้องกันการกระทำทุจริต และการให้บริการการเงินเพื่อการค้าระหว่างประเทศ (ร้อยละ 56, 41, 38 ตามลำดับ)
อุปสรรคในการพัฒนา
อย่างไรก็ตาม ทั้งผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ เช่น แพลตฟอร์มบริการการชำระเงิน เงินคริปโตฯ หรือการออกเหรียญ ICO เพื่อระดมทุน ที่ต่างก็ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนอยู่เบื้องหลัง ยังคงต้องเจอกับอุปสรรคที่ท้าทายในหลายด้าน เช่น การขาดความรู้ความเข้าใจของนักลงทุนทำให้ตกเป็นเหยื่อของกลุ่มนักต้มตุ๋นต่าง ๆ กฎระเบียบข้อบังคับที่ไม่แน่นอนและคลุมเครือ รวมไปถึงการดึงภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเข้ามาทำงานร่วมกัน
สถาบันการเงินทั่วโลกกำลังจับตาดูบล็อกเชน
China Everbright Bank ธนาคารชั้นนำในจีนซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทมหาชนที่ใหญ่ที่สุดในโลก จับมือกับ Ant Financial ของอาลีบาบา เพื่อเปิดตัว Supply Chain Finance Solution หรือจะเป็นฝั่งธนาคารจากยุโรปอย่าง HSBC ที่เตรียมพร้อมในการนำบล็อกเชนมาใช้เพื่อช่วยให้การค้าระหว่างประเทศหรือ Trade Finance เป็นไปอย่างราบรื่นระหว่างวิกฤตและการหยุดงานชั่วคราวที่มีสาเหตุมาจากไวรัส COVID-19 อีกด้วย
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง: Citigroup เข้าลงทุนใน Komgo สตาร์ทอัพจากแพลตฟอร์มของ Ethereum