บริษัทสัญชาติเยอรมัน Black Manta Capital Partners ได้เสนอขาย Security Token Offering หรือ STO ที่ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในนครเบอร์ลิน มูลค่า 12 ล้านดอลลาร์ โดยจับมือกับบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ Tigris Immobilien
โครงการดังกล่าวจะเป็นอพาร์ทเมนท์ที่อยู่อาศัยตั้งแต่ 40-60 ตารางเมตรต่อยูนิต โดยจะมีพื้นที่รวม 2,000 ตารางเมตร คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2020 และหน่วยลงทุนจะทำการขายให้กับนักลงทุนและผู้อยู่อาศัย
ผู้ถือโทเคนจะได้รับส่วนแบ่งผลกำไร 20% ของยอดขายผ่านสิทธิการถือครองหลักทรัพย์ที่ได้จากโทเคน โดยการเสนอขายโทเคนจะช่วยให้นักลงทุนรายย่อยไปสามารถเข้าลงทุนในโปรเจคท์อสังหาริมทรัพย์ที่สามารถสร้างผลกำไรได้ ซึ่งปกติแล้วจะเป็นแหล่งลงทุนสำหรับขาใหญ่ที่มีเงินหนาเท่านั้น
สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนในโทเคนดังกล่าวสามารถเริ่มได้ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำ 500 ยูโรหรือประมาณ 18,000 บาท และลงทุนสูงสุดได้ที่ 2 ล้านยูโรหรือประมาณ 70 ล้านบาท
Christian Platzer ซีอีโอของ Black Manta Capital Partners กล่าวว่าการลงทุนดังกล่าวมีข้อได้เปรียบเมื่อเทียบกับการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์รูปแบบเดิมคือ มีค่าธรรมเนียมดำเนินการที่ต่ำและสามารถเปลี่ยนมือความเป็นเจ้าของกันได้โดยง่าย ช่วยให้เป็นเจ้าของอสังหาทรัพย์ได้โดยไม่ต้องพึ่งพานักกฎหมาย
การเสนอขายดังกล่าวได้รับการอนุมัติจาก BaFin หรือหน่วยงานกำกับดูแลทางด้านการเงินของรัฐบาลกลางเยอรมัน โดยจากกฎระเบียบด้านตลาดทุนของเยอรมันทำให้โทเคนดังกล่าวสามารถเสนอขายให้กับนักลงทุนรายย่อยชาวเยอรมันและออสเตรียเท่านั้น สำหรับการเสนอขายไปยังนักลงทุนประเทศอื่น ๆ ในกลุ่มสหภาพยุโรปกำลังอยู่ระหว่างดำเนินการและพิจารณา
Black Manta Capital Partners เป็นสถาบันการเงินที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ BaFin และธนาคารกลางของเยอรมนี สำหรับการเสนอขาย STO อื่น ๆ อย่างหลักทรัพย์ที่เป็นหุ้นของบริษัทสตาร์ทอัพและเอสเอ็มอีคาดว่าจะเริ่มมีมาให้เห็นในปีนี้
Platzer คาดการณ์ว่าการเปลี่ยนสินทรัพย์ให้อยู่ในรูปแบบโทเคน (Tokenization Service) จะมีการเติบโตที่ดีในอนาคต รวมไปถึงธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการรับฝากและดูแลทรัพย์สินเงินคริปโตฯ (Crypto Custody) เนื่องจากนักลงทุนสถาบันต้องการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีผู้รับฝากและดูแลสินทรัพย์ให้เท่านั้น
“นักลงทุนสถาบันยังรอคอยบริการรับฝากสินทรัพย์ดิจิทัลที่จะช่วยดูแลและรับฝากโทเคนการลงทุนของพวกเขา ซึ่งจะส่งผลให้มีเม็ดเงินจำนวนมหาศาลเข้ามายังตลาดนี้ในระยะยาว แม้ขณะนี้จะถือเป็นธุรกิจที่ค่อนข้างนิช แต่ก็มีแนวโน้มการเติบโตที่สูงมากทีเดียว”
บล็อกเชนถูกนำมาใช้กับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ผ่านการทำ Security Token Offering มากขึ้นเรื่อย ๆ โดยมีสัดส่วนถึง 50% ของตลาด STO ทั้งหมดเลยทีเดียว
บทความที่เกี่ยวข้อง : Tokenize อนาคตของการลงทุน