Arianee บริษัทผู้พัฒนาแพลตฟอร์มการพิสูจน์ตัวตนอีเล็กทรอนิกส์ได้รับการแต่งตั้งจาก Breitling แบรนด์นาฬิกาหรูให้เป็นผู้พัฒนาบล็อกเชนโปรโตคอลเพื่อนำมาใช้พิสูจน์ว่านาฬิกาเป็นของแท้หรือไม่
Breitling ผู้ผลิตนาฬิกาสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ได้แถลงใน Press Release ว่าได้เปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ที่มีความเที่ยงตรงสูงโดยใบรับรองนั้นได้ใช้โปรโตคอลของ Arianee ในการพิสูจน์ว่านาฬิกาแต่ละชิ้นที่ผลิตออกมาเป็นของแท้หรือไม่ โดยใช้เทคโนโลยี DLT ( distributed ledger technology)
Breitling ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1884 อ้างว่าเป็นผู้ผลิตนาฬิการายแรกที่ออกใบรับรองโดยใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน โดยแต่ละชิ้นจะถูกจำหน่ายออกไปโดยมีใบรับรองในระบบดิจิทัล (E-Warranty) โดยเจ้าของนาฬิกาจะได้รับสิทธิในการดาวน์โหลดกระเป๋าสตางค์อีเล็กทรอนิกส์ที่ต้องเข้ารหัสซึ่งภายในจะมี Digital Passport
ภายใต้พาสปอร์ตดิจิทัลที่ได้รับจะมี Serial Number ของแต่ละคนรวมถึงระบบประทับเวลาซึ่งระบุถึงวันที่การรับกระกันได้เริ่มต้นขึ้น
“จะมีเพียงเจ้าของนาฬิกาที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นที่จะสามารถเข้าถึงกระเป๋าสตางค์นี้ได้ โดยพาสปอร์ตยังจะมีฟีเจอร์ที่ช่วยให้เจ้าของสามารถพิสูจน์ได้ว่านาฬิกาเป็นของแท้หรือไม่” ข้อมูลจากเวบไซท์ Breitling รายงาน
ถ้าหากเจ้าของต้องการที่จะขายนาฬิกาออกไป เพียงแค่ส่งต่อพาสปอร์ตดิจิทัลไปให้กับเจ้าของใหม่เพื่อใช้ในการยืนยันความเป็นเจ้าของเท่านั้น นาย Emmanuelle Collet ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่การตลาดของ Arianne กล่าวสั้น ๆ ว่า “เราภูมิใจที่ได้ส่งมอบประสบการณ์ที่มีค่านี้ให้กับลูกค้าระดับบนของ Breitling”
Arianne ตั้งเป้าผู้นำในการพิสูจน์ความเป็นเจ้าของสินค้าหรูหรา
Arianne อ้างว่าได้เป็นผู้นำในการใช้เทคโนโลยีพิสูจน์ตัวตนกับสินค้าประเภทนาฬิกาเป็นรายแรก โดยในเดือนมิถุนายนปี 2019 ได้เป็นพันธมิตรกับ Vacheron ผู้ผลิตนาฬิกาประเภท Mechanic ในการนำบล็อกเชนมาใช้พิสูจน์ของแท้ของปลอมมาแล้ว
ไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ Perre-Nicolas Hurstel ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Arianne ได้ออกมากล่าวในงานแสดงแฟชั่นในกรุงปารีสว่าบริษัทฯมีความต้องการจะเข้ามามีส่วนร่วมในการนำบล็อกเชนมาใช้กับอุตสาหกรรมแฟชั่นแบรนด์หรู
บล็อกเชนถูกนำมาใช้พิสูจน์สินค้าเทียมในหลากหลายอุตสาหกรรม
ปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ธนาคาร Nonghyup ของเกาหลีใต้ได้เปิดตัวระบบ Mobile Employee ID โดยใช้เทคโนโลยี DLT ซึ่งเป็นการพัฒนาร่วมกับยักษ์ใหญ่อย่างซัมซุงและ SK Telecom
ขณะที่รัฐมนตรีกระทรวงพัฒนาสังคมของสหรัฐอาหรับเอมิเรทส์ ได้มีการนำบล็อกเชนมาใช้พิสูจน์ตัวตนของประชากรทางอีเล็กทรอนิกส์หลังจากที่สำนักงานภาครัฐต้องปิดดำเนินการไปหลังการระบาดของไวรัสโควิด-19
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง : Business Insider เผยผลสำรวจ “บล็อกเชน” ถูกนำมาใช้พัฒนาบริการด้านการชำระเงินมากที่สุด