ธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ (Bank for International Settlements: BIS) ได้เปิดเผยรายงานการศึกษาฉบับใหม่ ระบุว่า ในขณะที่รัฐบาลของหลายประเทศทั่วโลกกำลังแข่งขันกันอย่างหนัก เพื่อที่จะได้ออกสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) เป็นประเทศแรกในโลก แต่กลับไม่มีโครงการ CBDC ของประเทศใดเลยที่มุ่งเน้นและให้ความสำคัญกับการชำระเงินข้ามพรมแดนระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่องและชัดเจน
เมื่อวันที่ 1 มีนาคม ที่ผ่านมา ทาง BIS ได้เปิดเผยส่วนหนึ่งของการทบทวนรายไตรมาสของทางธนาคาร เรื่องการธนาคารระหว่างประเทศและการพัฒนาตลาดการเงิน ซึ่งในรายงานดังกล่าว สถาบันการเงินระหว่างประเทศได้ทำการวิเคราะห์โครงการ CBDC ที่กำลังดำเนินการอยู่ ควบคู่ไปกับประเด็นสำคัญระดับโลกในตลาดต่าง ๆ อาทิเช่น ผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา (Covid-19) ในประเทศจีน เป็นต้น
ในรายงานของ BIS มีธนาคารกลางจากรัฐบาลอย่างน้อย 17 แห่งกำลังศึกษาและพัฒนาการออก CBDC ของตนเอง เช่น ประเทศไอซ์แลนด์ นอร์เวย์ บราซิล และอิสราเอล อย่างไรก็ตาม จากการวิเคราะห์พบว่า โครงการ CBDC เหล่านั้นไม่ได้มุ่งเน้นไปที่การอำนวยความสะดวกในการชำระเงินข้ามพรมแดนระหว่างประเทศ แม้ว่าจะมีหน่วยงานระดับโลกหลายแห่งที่ได้ระบุถึงศักยภาพของ CBDC ในการชำระเงินข้ามพรมแดนระหว่างประเทศว่ามีความสะดวกรวดเร็ว ต้นทุนต่ำกว่า และมีความเสี่ยงน้อยกว่าอีกด้วย
โดยจากรายงานของ BIS ระบุว่า “ไม่มีโครงการ CBDC ใดเลยที่มุ่งเน้นเกี่ยวกับการชำระเงินนอกเหนือขอบเขตอำนาจอธิปไตยของตน แต่มีธนาคารบางแห่งได้ทดลองวิธีการชำระเงินแดนข้ามประเทศวิธีอื่น ๆ ควบคู่ไปกับความพยายามสร้าง CBDC ของตนเอง”
นอกจากนี้ BIS ยังได้ตั้งข้อสังเกตว่า บางประเทศ เช่น เดนมาร์กและสวิตเซอร์แลนด์ เชื่อว่าต้นทุนการออก Retail CBDC หรือสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางสำหรับประชาชนทั่วไปนั้นยังไม่คุ้มค่าแก่การพัฒนา อย่างไรก็ตาม ในหลายๆ ประเทศยังคงพัฒนา Retail CBDC อย่างต่อเนื่อง โดยธนาคารทั่วโลกหนึ่งในสาม อ้างว่าพวกเขาพิจารณาการออก CBDC ให้มีความสำคัญอยู่ในระยะกลาง
ทางด้านประธานธนาคารกลางยุโรป นาง Christine Lagarde ได้ออกมาแสดงท่าทีที่เป็นบวกต่อ CBDC ในแง่ของการเป็นเครื่องมือในการชำระเงินข้ามพรมแดนระหว่างประเทศที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ในการโอนข้ามพรมแดนระหว่างประเทศเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา
แต่ในความเป็นจริงกลับสวนทาง เมื่อไม่มีโครงการ CBDC ของประเทศใดที่มุ่งเน้นไปที่การชำระเงินข้ามพรมแดนระหว่างประเทศเลย ดูเหมือนว่าจะเป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นถึงความไม่เต็มใจของเหล่าผู้มีอำนาจที่จะขยายขอบเขตการใช้สกุลเงินรูปแบบใหม่นี้ให้เป็นระดับสากล
ขณะเดียวกัน จากรายงานของ Cointelegraph เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ทางด้านธนาคารกลางของประเทศต่างๆ อาทิ แคนาดา สหราชอาณาจักร และสิงคโปร์ ก็เชื่อเช่นเดียวกันว่า CBDC นั้นสามารถช่วยพัฒนาและลดความเสี่ยงด้านเครดิตของคู่สัญญาสำหรับการชำระเงินข้ามพรมแดนระหว่างธนาคารได้มากยิ่งขึ้น
เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา มีรายงานของ Cointelegraph เผยว่า ทางประเทศสวีเดนได้เริ่มทำการทดสอบโครงการสกุลเงินดิจิตอล e-krona ขณะที่เมื่อช่วงเดือนธันวาคม ปีที่แล้ว เกาะบาฮามาส ก็ได้เปิดตัวโครงการ CBDC ในชื่อ Project Sand Dollar ซึ่งมีแผนที่จะนำสกุลเงินดิจิตอลของตนเองใช้งานทั่วประเทศในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง: ประเทศหมู่เกาะมาร์แชลเล็งเปิดตัว “สกุลเงินดิจิทัลแห่งชาติสกุลแรกของโลก”
