ประเทศจีนได้เริ่มทำการวิจัยสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) มาตั้งแต่ปี 2014 และคาดการณ์ไว้ว่าจะถูกแจกจ่ายให้กับธนาคารพาณิชย์เป็นอันดับแรก จากนั้นจะให้ผู้ใช้รายย่อยและกลุ่มธุรกิจสามารถเริ่มเข้ามาลงทะเบียนกระเป๋าเงินดิจิทัลกับทางธนาคารพาณิชย์เหล่านั้น
โดยก่อนหน้านี้ ธนาคารกลางประเทศจีน หรือ People’s Bank of China (PBoC) ได้แถลงการณ์เผยเกี่ยวกับความคืบหน้าว่า “เราจะดำเนินการพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องในปี 2020″ และจะทำการเปิดทดสอบการสกุลเงินดิจิทัลของตนเองในเมืองเซินเจิ้นและซูโจวเป็นแห่งแรก นั่นจะทำให้ PBoC เป็นธนาคารกลางแห่งแรกของโลกที่ออกสกุลเงินดิจิทัลของตนเอง นอกจากนี้ ทาง PBoC ยังได้มีการร่วมมือเป็นพันธมิตรกับธนาคารพาณิชย์อีก 4 แห่ง รวมถึงบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคมอีก 3 แห่งอีกด้วย
ล่าสุด มีรายงานว่า ธนาคารกลางจีน ได้รับเงินทุนพิเศษกว่า 4.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 141 ล้านบาท จากทางรัฐบาลกลางของจีน เพื่อใช้สำหรับการพัฒนาแพลตฟอร์มบล็อกเชนเพื่อการค้า โดยเงินทุนดังกล่าวถูกนำไปบริหารจัดการเป็นช่วงระยะเวลา 3 ปี โดยจะนำไปใช้ในการทำวิจัยและพัฒนาโครงการต่าง ๆ ต่อไป
โดยแพลตฟอร์มบล็อกเชนเพื่อการค้านี้ ได้ถูกเปิดตัวครั้งแรกในเดือนกันยายน 2018 โดย PBoC ณ เมืองเซินเจิ้น โดยมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกในการถ่ายโอนข้อมูลและสร้างบัญชีที่มีความปลอดภัยสูงระหว่างภาคธุรกิจกับหน่วยงานของรัฐบาล
บล็อกเชนนั้นได้ช่วยให้การจัดหาเงินทุนของเหล่าบริษัทหรือองค์กรของจีนนั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยหลังจากที่มีการเปิดตัวแพลตฟอร์มดังกล่าวจำนวนธนาคารและบริษัทก็ได้มีการเข้าร่วมอย่างต่อเนื่อง เมื่อช่วงกลางเดือนมกราคม มีธนาคารกว่า 38 แห่ง และบริษัทจำนวนเกือบ 1,900 แห่งที่ได้ร่วมลงทะเบียนใช้แพลตฟอร์มนี้ โดยมีมูลค่าการทำธุรกรรมไปแล้วรวมกว่า 9 หมื่นล้านหยวน หรือราว 1.24 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ทางด้านสำนักข่าว Xinhua ของจีน เผยว่า แพลตฟอร์มดังกล่าวได้ช่วยลดเวลาในการดำเนินการจัดหาเงินทุนเพื่อการค้า เหลือเพียงแค่ 20 นาทีจากเดิมใช้เวลานานถึง 10 วัน อีกทั้งยังช่วยลดต้นทุนของเหล่าองค์กรต่าง ๆ ได้ประมาณ 6% โดยแพลตฟอร์มดังกล่าวได้รับการบริหารจัดการจากทั้งฝ่ายวิจัยสกุลเงินดิจิตอลของธนาคารกลาง สถาบันวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยชั้นนำ และธนาคารรายใหญ่ของจีน
การใช้บล็อกเชนมาช่วยเป็นเครื่องมือแก้ปัญหานั้นกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศจีน โดยในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา มีรายงานว่าเทคโนโลยีบล็อกเชนได้ถูกใช้งานเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยเมื่อวันที่ 2 มีนาคม ที่ผ่านมา กรุงปักกิ่งของจีนได้เปิดตัวระบบแจ้งยอดชำระค่าจอดรถบนระบบบล็อกเชน หน่วยงานด้านภาษีของปักกิ่งให้การว่า จะมีการนำระบบนี้ไปใช้กับลานจอดรถทั่วทั้งเมืองเพื่อส่งเสริมการออกใบเสร็จแบบไม่ใช้กระดาษ รวมถึงได้มีการวางแผนว่าจะใช้ระบบดังกล่าวในหน่วยงานอื่น ๆ ของจีนมากขึ้นในอนาคต
นอกจากนี้ ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา สำนักข่าว Xinhua ประเมินว่า มีการเปิดตัวแอพพลิเคชันบนบล็อกเชนอย่างน้อย 20 แอพฯ เพื่อส่งเสริมความพยายามในการทำงานของรัฐบาลจีนในการจำกัดการระบาดของไวรัส COVID-19 เช่น การจัดการและติดตามบันทึกข้อมูลสุขภาพ เวชภัณฑ์ และการให้ความช่วยเหลือชาวจีนที่กำลังขาดแคลน
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง: นักเศรษฐศาสตร์ ING: ดอลลาร์สหรัฐฯต้องปรับตัว หรือยอมถูกกลืนโดยเงินดิจิทัล
