ส่วนหนึ่งของการวิเคราะห์ทางเทคนิคได้มีการวิเคราะห์รูปแบบการเคลื่อนไหวของราคาหรือที่เรียกว่า Price Pattern ซึ่งมักจะมีรูปแบบซ้ำๆและสามารถคาดการณ์ได้ว่าทิศทางในอนาคตต่อไปจะเป็นอย่างไร โดยรูปแบบราคาพื้นฐานที่พบเห็นกันทั่วไปและใช้อธิบายทิศทางของราคาประกอบไปด้วย
รูปแบบ V Shape เป็นแนวโน้มราคาที่คล้ายกับตัวอักษร V กล่าวคือราคามีการทิ้งดิ่งลงอย่างรวดเร็วแต่มีนักลงทุนซื้อหุ้นกลับอย่างรวดเร็ว รูปแบบราคาจึงเหมือนกับตัว V คือลงแรงและขึ้นแรงทันที
รูปแบบ W Shape เป็นแนวโน้มราคาที่มักเกิดขึ้นในภาวะที่ตลาดผันผวน โดยราคาจะถูกทิ้งดิ่งลงจนถึงระดับแนวรับสำคัญ จากนั้นจะมีแรงซื้อกลับเข้ามาแต่ข่าวหรือเหตุการณ์อาจจะไม่แรงพอที่จะผลักดันราคาให้ขึ้นต่อไปจนถึงระดับราคาสูงสุดก่อน เมื่อถึงแนวต้านหนึ่งจะถูกเทขายอีกครั้งจนลงมาแตะระดับแนวรับเดิมหรือแนวรับถูกกยกสูงขึ้น จากนั้นจะมีเหตุการณ์หรือข่าวดีเข้ามาอีกครั้งทำให้ราคาถูกยกสูงขึ้น เท่ากับว่ารูปแบบการเคลื่อนไหวจะคล้ายกับตัวอักษร W คือมีทั้งขึ้นและลง
รูปแบบ L Shape เป็นแนวโน้มราคาที่ถูกทิ้งดิ่งลงมาอย่างรวดเร็วจนมาถึงแนวรับสำคัญด้านล่าง แต่ราคาไม่สามารถปรับตัวขึ้นต่อได้เนื่องจากไม่มีเหตุการณ์หรือข่าวที่ผลักดันราคาให้ขึ้นต่อได้แต่ราคาก็ไม่ลงต่ำไปกว่านี้ รูปแบบราคาจึงเหมือนตัวอักษร L คือมีการเคลื่อนไหวออกข้าง
รูปแบบ Double Top เป็นแนวโน้มราคาที่คล้ายกับ W Shape แต่เป็นแบบกลับหัว กล่าวคือราคาถูกผลักดันขึ้นมาจนแตะแนวต้านสำคัญแต่ไม่สามารถผ่านไปได้ จนราคาถูกทิ้งลงมาแตะแนวรับสำคัญแต่ก็มีแรงซื้อกลับเข้ามาจนแตะแนวต้านสำคัญครั้งที่แล้วได้อีกซึ่งยังไม่สามารถผ่านไปได้ จนกระทั่งราคากลับลงมาแตะที่แนวรับเดินซึ่งคราวนี้ราคาไม่สามารถยืนอยู่ได้ จนหลุดแนวรับดังกล่าวลงไปเป็นทิศทางขาลง นักลงทุนจำเป็นต้องใช้จุดดังกล่าวในการตัดสินใจตัดขาดทุน
นอกจากนี้ยังมีรูปแบบราคาแบบสามเหลี่ยมที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงราคาอย่างมีนัยยะสำคัญที่นักลงทุนต้องติดตามอย่างใกล้ชิดได้แก่
รูปแบบสามเหลียมยกตัว (Ascending Triangle) เป็นรูปแบบราคาที่มีการบีบตัวแคบลงไปเรื่อยๆในกรอบที่เป็นสามเหลี่ยม โดยที่แนวรับถูกขยับสูงขึ้นและแคบไปเรื่อยๆ ถ้าหากราคาสามารถผ่านแนวต้านสำคัญกรอบบนของเทรนด์ไลน์ไปได้ ทิศทางราคาจะเป็นแนวโน้มขาขึ้นแบบเต็มตัว
รูปแบบสามเหลี่ยมยุบตัว (Descending Triangle) เป็นรูปแบบราคาที่เคลื่อนไหวในกรอบสามเหลี่ยมแคบลงไปเรื่อยๆแต่เป็นในลักษณะที่ไม่สามารถผ่านแนวต้านของเทรนด์ไลน์ไปได้และจุดสูงสุดต่ำลงไปเรื่อยๆ จนราคาทะลุแนวรับสำคัญลงไปจะเป็นขาลงแบบเต็มตัว
