ทองคำ ถูกเทขายอย่างหนักจาก Dollar Index ที่กลับมาแข็งค่าอีกครั้ง ส่วนตลาดคริปโตถูกเทขายหนักด้วยเช่นกัน แต่ภาพรวมของทั้งทองคำและคริปโตยังไม่สูญเสียโมเมนตัมของขาขึ้น การพักฐานรอบนี้อาจส่งผลบวกต่อการปรับตัวขึ้นต่อ
ราคาทองคำดิ่งลงอย่างต่อเนื่องทรุดหนักกว่า 100 ดอลลาร์เคลื่อนไหวอยู่ในระดับ 1,920 ดอลลาร์ หลังมีข่าวว่า รัสเซียได้จดทะเบียนวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 เป็นประเทศแรกในโลก
ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์เคยเตือนว่า ความสำเร็จของการพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 จะเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะฉุดราคาทองหลังจากที่พุ่งแรงขึ้นในระยะนี้นอกจากนี้ ราคาทองยังถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์
จากกราฟราคาทองคำในภาพใหญ่ยังคงเป็นขาขึ้น แนวรับสำคัญคือเส้นเทรนด์ไลน์ด้านล่าง หากรับอยู่ที่ระดับประมาณ 1,900 ดอลลาร์ ต้นๆ แนวโน้มของทองคำก็ยังไม่เสียภาพขาขึ้น ส่วนระยะสั้นหากกลับมายืนเหนือเส้น EMA25 (เส้นสีแดง) ได้ โมเมนตัมของทองคำยังเป็นขาขึ้น
ปัจจัยสำคัญที่ต้องจับตหลังจากนี้คือค่าเงินดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้นอีกหรือไม่ซึ่งจะเป็นตัวแปรสำคัญของโมเมนตัมราคาทั้งทองคำและคริปโต
จากกราฟดัชนี Dollar Index เห็นว่าได้มีการอ่อนค่าลงมาแต่ไม่ทำโลว์ใหม่ที่ระดับ 92.46 จุด จากนั้นมีการแข็งค่ากลับในระยะสั้นแตะระดับ 93.68 จุด ทำให้สินทรัพย์ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามอย่างทองคำถูกเทขาย
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มใหญ่ของ Dollar Index ยังเป็นขาลงโดยมีแนวโน้มอ่อนค่าต่อเนื่องชัดเจน แต่ต้องจับตาแนวรับที่ 92.46 จุดว่าจะเป็นแนวรับสำคัญที่ทำให้ดอลลาร์กลับตัวขึ้นมาแข็งค่าได้หรือไม่ ถ้ากลับมาแข็งค่าย่อมกดดันแนวโน้มราคาของสินทรัพย์ที่ใช้ประกันความเสี่ยงเงินเฟ้ออย่างทองคำและคริปโตได้นั่นเอง
กราฟเทคนิคของ บิทคอยน์ (BTC) แนวโน้มยังไม่พลิกเป็นขาลง ราคาไม่สามารถผ่านแนวต้านเส้นเทรนด์ไลน์สีแดงหลังทดสอบไปแล้วสองครั้งจึงมีการพักฐานลงมา แนวรับยังคงใช้จุดสูงสุดเดิมของปีนี้ที่เพิ่งผ่านขึ้นมาได้ที่ 10,500 ดอลลาร์ เป็นจุดเข้าซื้อ หรือจะใช้เทรนด์ไลน์สีเหลืองเป็นแนวรับได้เช่นกัน
หากแนวรับสามารถรับอยู่ แนวต้านต่อไปที่จะต้องผ่านไปให้ได้คือ 12,300 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นอีกจุดสูงสุดหนึ่งของปีที่แล้ว โดยเป้าหมายระยะกลางคือการทดสอบแนวต้านตามแนว Fibonacci 161.8 ที่ระดับ 14,766 ดอลลาร์
ขณะที่ดัชนี SCN30 Index ปรับตัวลดลง 12.43 จุด มาอยู่ที่ 251.55 จุด แนวโน้มยังเคลื่อนไหวไซด์เวย์ เหรียญที่ถูกเทขายหนักเป็นกลุ่มที่ Hard Fork มาจากบิทคอยน์อย่าง BCH และ BSV ที่ลดลงระดับ 8-9% ขณะที่ LINK และ XTZ ปรับฐานลงเล็กน้อยที่ระดับประมาณ 4%
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง: LINK แรงเกินห้ามใจ ขณะที่ XTZ มาเงียบทำ All Time High ไปแล้ว