Image Courtesy: Venezuela National Guard
ธุรกิจการทำเหมืองขุดบิทคอยน์ในประเทศเวเนซูเอลาแม้จะให้ผลตอบแทนที่ค่อนข้างดีจากราคาค่าไฟที่ถูกแสนถูกและก็ไม่ได้ขัดต่อกฎหมายของประเทศแต่อย่างใด แต่การจะลืมตาอ้าปากในประเทศที่รัฐฯไม่เห็นหัวประชาชนเช่นนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายดายนัก
เหตุการณ์บุกยึดเครื่องขุดบิทคอยน์หรือเครื่อง ASICs เกิดขึ้นเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ โดยกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิของประเทศเวเนซูเอลาได้ทำการยึดเครื่องขุดกว่า 315 เครื่องของผู้ประกอบการรายหนึ่งระหว่างที่เขากำลังทำการส่งมันไปยังเมือง Ciudad Guayana
โดยทางกองกำลังฯได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการยึดครั้งนี้ว่า รถบรรทุกเครื่องขุดดังกล่าวกำลังจะเข้าเขตเมือง Guayana และต้องเจอกับด่านตรวจของทหาร จึงมีการขอดูใบอนุญาตเข้าเขตเป็นการพิเศษเนื่องจากการระบาดของไวรัสโคโรน่าทำให้มีกฎควบคุมการสัญจรไปมาระหว่างเมือง
จากคำให้การของทางกองกำลังฯระบุว่า คนขับรถบรรทุกไม่มีใบอนุญาตให้เดินทางระหว่างเมือง จึงได้ทำการตรวจค้นรถและพบเครื่องขุดบิทคอยน์รุ่น S9 จำนวน 315 เครื่อง ทางเจ้าหน้าที่จึงทำการขอดูเอกสารทางกฎหมายที่อนุญาตให้มีการครอบครองและใช้งานเครื่อง ASICs ดังกล่าว แต่ผู้ขับรถบรรทุกกลับไม่มีเอกสารใด ๆ ที่สามารถแสดงต่อเจ้าหน้าที่ได้
Image Courtesy: Venezuela National Guard
เจ้าหน้าที่จึงทำการยึดอุปกรณ์เป็นของกลางและส่งเรื่องให้แก่ฝ่ายสินทรัพย์ดิจิทัลและคริปโตเคอเรนซี่แห่งชาติ หรือที่รู้จักกันในนาม Sunacrip ล่าสุด ทางหน่วยงานยังไม่ได้ออกมาให้ความเห็นต่อเรื่องนี้แต่อย่างใด
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทางเวเนซูเอล่าต้องเผชิญกับปัญหาเงินเฟ้ออย่างหนักจน ประกอบกับการที่ถูกคว่ำบาตรจากนานาชาติส่งผลให้สภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่ลงไปอีก ประชาชนจำนวนมากต้องหาทางลี้ภัยออกนอกประเทศ และผู้คนที่เหลืออยู่ในประเทศต่างต้องหาเงินสกุลอื่นมาทดแทนเนื่องจากค่าเงินโบลิวาร์ยังตกต่ำลงอย่างต่อเนื่อง
รัฐบาลของเวเนซูเอลา นำโดยนาย Nicholas Maduro ยังคงต้องการกุมอำนาจเอาไว้จึงทำการสั่งห้ามใช้เงินดอลลาร์และสกุลเงินต่างประเทศทุกรูปแบบ โดยมีความพยายามผลักดันเงินคริปโตแห่งชาติที่หนุนหลังโดยน้ำมันหรือ Petro (PTR) มาแทนที่ พร้อมได้ทำการผลักดันกฎหมายหลายฉบับเพื่อมารองรับให้เงินคริปโตถูกต้องตามกฎหมายอีกด้วย
นี่จึงส่งผลให้ธุรกิจการทำเหมืองขุดคริปโตกลายเป็นธุรกิจที่ถูกกฎหมาย หากแต่ผู้ประกอบการจำเป็นต้องทำการลงทะเบียนกับทางภาครัฐเสียก่อน เช่นเดียวกันกับการจดทะเบียนธุรกิจทั่ว ๆ ไปนั่นเอง
แม้นี่ดูจะเหมือนเป็นเรื่องที่ดี แต่ผู้ประกอบการหลายรายต่างแสดงความกังวลว่าการเปิดเผยข้อมูลและรายได้ต่อทางภาครัฐฯนั้นอาจนำมาซึ่งการรีดไถและขู่กรรโชกทรัพย์ อันเป็นผลพวงมาจากการคอรัปชันที่ฝังรากลึกและระบบราชการที่เน่าเฟะของประเทศ
นักขุดหลายรายต่างเคยรายงานว่าถูกหมายหัวและเรียกเก็บ ‘ส่วย’ จากทางตำรวจและผู้มีอำนาจ จนทำให้ต้องย้ายฐานการขุดหนีไปในเมืองอื่น ๆ แม้สถานการณ์จะไม่ปลอดภัย แต่พวกเขากลับบอกว่ามันคุ้มกับที่จะเสี่ยง และเวเนซูเอลาเป็นหนึ่งในสถานที่ที่เหมาะกับการทำธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์มากที่สุดในโลก
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง: รัฐบาลสหรัฐฯกำลังหาทางแกะรอย Privacy Coin อย่าง ZCash และ Monero