สัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนในเงินดิจิตอลคาดหวังว่าฤดูใบไม้ผลิหรือตลาดขาขึ้นจะกลับมาแล้วหลังเราเผชิญกับฤดูหนาวมานาน บิทคอยน์ พุ่งขึ้นกว่า 30% ภายในวันเดียวด้วยเหตุผลสนับสนุนต่างๆมากมาย
หนึ่งในเหตุผลคือการที่มีการปิดสถานะ Short ล่วงหน้าในตลาด Bakkt ซึ่งเปิดให้สามารถซื้อขายบิทคอยน์ฟิวเจอร์สได้ซึ่งมีโอกาสที่จะทำกำไรในสภาวะขาลง ซึ่งก็เป็นความจริงเพราะตั้งแต่เปิดซื้อขาย ราคาบิทคอยน์ก็ร่วงจาก 10,000 เหรียญมาอยู่ที่ 7,900 เหรียญ แต่การปิดสถานะขายล่วงหน้ามาเป็นฝั่งซื้อก็อาจเป็นเหตุผลที่ทำให้ราคาบิทคอยน์พุ่งแรง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : Bakkt เตรียมให้บริการ บิทคอยน์ ออปชั่น วันที่ 9 ธ.ค.
ช่วงเวลาที่ผ่านมา ผมได้เห็นการตื่นตัวของนักลงทุนสถาบันที่มีต่อเงินดิจิตอลและบิทคอยน์ พวกเขาให้ความสนใจที่จะนำบางส่วนมาลงทุนในสินทรัพย์เกิดใหม่นี้ แม้ว่านักลงทุนสถาบันส่วนใหญ่จะยังขาดความรู้ในเรื่องนี้
ในงานสัมนาด้านการลงทุนที่ผ่านมาได้มีการสนทนาบนเวทีและพาดพิงถึงบิทคอยน์ว่า “ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะไว้ใจให้เงินของนักลงทุนไปอยู่ที่เซิรฟเวอร์บนเกาะเคย์แมน” คำกล่าวนี้แสดงว่านักลงทุนสถาบันยังไม่เข้าใจเรื่องเงินดิจิตอลอย่างแท้จริง เพราะในความจริงไม่มีใครสามารถควบคุมเงินของเราได้เหมือน Fiat Currency นี่เป็นความท้าทายอย่างมากที่จะดันให้นักลงทุนสถาบันเข้าใจในเทคโนโลยี
ตอนนี้นักลงทุนรายย่อยจึงยังเป็นส่วนสำคัญของตลาดซื้อขายเงินดิจิตอล พวกเขายังต้องเผชิญกับการตรวจสอบจากทางการอย่างถี่ยิบในเรื่องของการโอนถ่ายเงินระหว่าง Fiat และเงินดิจิตอล
กลับมาที่ตลาดเงินดิจิตอลสัปดาห์ที่ผ่านมาน่าสนใจที่เราได้เห็นเหรียญอื่นๆที่ปรับตัวขึ้นตามบิทคอยน์บ้างหลังที่ผ่านมาจะ Under Perform เสมอ อย่างเช่น Litecoin และ Bitcoin SV ที่ราคาพุ่งขึ้น 30% เหมือนบิทคอยน์
ภาพรวมสัปดาห์นี้คาดว่าตลาดจะยังอยู่ในภาวะกระทิง แต่ต้องรอให้ราคาสามารถผ่านระดับ 10,000 เหรียญไปได้ถึงจะเห็นภาพที่ชัดเจนของตลาดขาขึ้น
คาดว่าบิทคอยน์จะเคลื่อนไหวในกรอบ 9,000-10,000 เหรียญ รอซื้อที่แนวรับ 9,000 เหรียญและรอขายที่แนวต้าน 10,000 เหรียญ
ขอให้ทุกท่านโชคดี
วิเคราะห์โดย Patrick Tan ซีอีโอ Novum Global Technology อ่านบทความของเขาได้ที่นี้