ตลาดการลงทุน เราคุ้นเคยกับคำนิยามตลาดขาขึ้นว่าภาวะกระทิง (Bull) และภาวะหมี (Bear) ในตลาดขาลง แต่ตอนนี้เรากำลังมีนิยามใหม่นั่นคือภาวะตลาดจิงโจ้หรือเคลื่อนไหวไม่มีทิศทางที่ชัดเจน และการขึ้นลงแต่ละครั้งมีความผันผวนรุนแรง
ประเด็นสำคัญในตลาดการเงินในตอนนี้ยังคงเป็นการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดทั่วโลกโดยเฉพาะที่สหรัฐฯอเมริการวมถึงสะเก็ดแผลทางเศรษฐกิจที่เริ่มแสดงให้เห็น ความไม่ชัดเจนว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวได้แบบ V Shape หรือไม่ ส่งผลให้ตลาดการเงินที่มีเม็ดเงินจากการอัดฉีดสภาพคล่องหนุนอยู่ เลือกที่จะแกว่งตัวตามข่าวที่เกิดขึ้น
ตลาดการลงทุน ที่ไร้ทิศทางแบบนี้สิ่งที่นักลงทุนต้องให้ความสำคัญคือการบริหารเงินในพอร์ตเพราะตลาดจะมีการเหวี่ยงตัวที่แรง อย่าลงทุนด้วยเงินทั้งหมดในครั้งเดียวแต่สามารถแบ่งการซื้อออกเป็น 2-3 ไม้ รวมถึงหาโอกาสในการทำกไรหากซื้อในจังหวะแนวรับที่ถูกต้องและขายทำกำไรในแนวต้าน
Image Courtesy: FlyingCalls
ด้านตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล การที่นักลงทุนสถาบันเข้ามาในตลาดนี้มากขึ้นอาจเป็นสาเหตุให้การเคลื่อนไหวของราคามีทิศทางเดียวกับ Wall Street แต่ยังเชื่อว่าระยะยาวเมื่ออาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นจากการอัดฉีดเงินนั่นคือเงินเฟ้อเริ่มเพิ่มขึ้น เมื่อถึงตอนนั้นสินทรัพย์ดิจิทัลจะทำงานตามหน้าที่และจะ Outperform ขึ้นมาในที่สุด
บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง : Grayscale เดินหน้าซื้อบิทคอยน์อย่างบ้าคลั่ง เฉลี่ยวันละ 340 ล้านบาท!
วิเคราะห์ทางเทคนิคบิทคอยน์
ภาพระยะสั้นยังคงเคลื่อนไหวออกข้าง แนวรับตาม Fibonacci ที่ระดับ 8,800 ดอลลาร์ยังทำหน้าที่ได้อย่างดี เช่นเดียวกับกรอบแนวรับตามเครื่องมือ Bolinger Band แนวต้านสำคัญยังคงเป็นระดับ 10,000 ดอลลาร์ และยังจะต้องผ่าน 10,500 ดอลลาร์ไปให้ได้ถึงจะยืนยันการเป็นขาขึ้น
แต่หากหลุดระดับ 8,800 ดอลลาร์ จะมีแนวรับต่อไปที่ 7,600 ดอลลาร์ตามแนว Fibonacci และยังเป็นระดับราคาที่เกิดการ Breakout พ้นจากขาลง สัญญาณ Bolinger Band ยังไม่เกิดการบีบตัวที่จะเลือกทาง กลยุทธ์การเทรดช่วงนี้จึงยังคงเป็น Channel Trade ในกรอบไซด์เวย์ต่อไป
วิเคราะห์ทางเทคนิค Ethereum
ภาพระยะสั้นยังคงเคลื่อนไหวแบบไซด์เวย์เช่นกัน โดยแนวต้านสำคัญยังคงอยู่ที่ 250 ดอลลาร์ ส่วนแนวรับอยู่ที่ 212 ดอลลาร์ หรือจะใช้แนวรับตาม Bolinger Band ได้เช่นกัน
แต่หากหลุดระดับดังกล่าวจะมีอีกแนวรับสำคัญคือ 188 ดอลลาร์ กลยุทธ์การเทรดในช่วงนี้สามารถซื้อขายตามกรอบแนวรับแนวต้านแบบไซด์เวย์ไปก่อน
ขณะที่ดัชนี SCN30 Index สัปดาห์ที่ผ่านมาขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 158 จุดก่อนจะลงมาทำจุดต่ำสุดที่ 145 จุด แนวโน้มดูอ่อนแรงลงหลังขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 163 จุด ตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน แนวโน้มยังเป็นขาลงต่อเนื่อง
บทความที่เกี่ยวข้อง : ทำความรู้จักตราสารอนุพันธ์ก่อนจะเกิดโศกนาฏกรรมเช่นเดียวกับนักเทรด Robinhood