ดอยซ์แบงก์เผยผลการวิจัยล่าสุดเกี่ยวกับอนาคตของการชำระเงินซึ่งได้มีการพูดถึงแนวโน้มในเรื่องของเงินสด, ออนไลน์, มือถือ, สกุลเงินดิจิตอลและบล็อกเชนโดยจากการวิจัยดังกล่าวระบุว่าเงินสดจะยังเป็นส่วนหนึ่งของระบบเศรษฐกิจไปอีกนานหลายสิบปีเนื่องจากผู้คนไว้วางใจในเงินสดมาเป็นเวลานาน คาดเงิน ดิจิตอลหยวน ของจีน อาจขึ้นมาเป็นผู้นำอันดับหนึ่ง แทนที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ
โดยปัจจัยที่มีผลต่อการดำรงอยู่ของเงินสดในระยะยาวนั้นจะเกี่ยวข้องกับเเรื่องของความยากง่ายในการตรวจสอบ, ความสะดวกสบายในการแลกเปลี่ยนและด้านความปลอดภัยต่างๆ
อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าการชำระเงินแบบดิจิตอลจะต้องเผชิญกับอุปสรรคด้านกฎระเบียบหลายๆอย่างแต่การชำระเงินแบบดิจิตอลนั้นก็มีการเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วซึ่งคาดว่าภายในสิ้นทศวรรษนี้จะมีการเติบโตขึ้นสู่ระดับ 200 ล้านคนนอกจากนี้ในจีนและอินเดียยังได้มีการพัฒนาการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์, สกุลเงินดิจิตอลและ peer-to-peer, ซึ่งอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนศูนย์กลางของอำนาจทางเศรษฐกิจโลกก็เป็นได้
ทางด้านธนาคารชี้ให้เห็นว่าธนาคารกลางจีนกำลังสนับสนุนสกุลเงินดิจิตอลอย่างมากโดยสามารถใช้ได้ทั้งไม้อ่อนและไม่แข็งกับบริษัทในประเทศนั้นๆซึ่งถ้าหากมีการนำเงิน ดิจิตอลหยวน มาใช้จริงก็อาจจะสามารถทำลายความเป็นอันดับหนึ่งของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯในตลาดการเงินโลกได้เลย
ทั้งนี้แม้ว่าสกุลเงินดิจิตอลที่มีชื่อเสียงที่สุดอย่างบิทคอยน์จะมีความผันผวนสูงแต่สกุลเงินดิจิตอลก็ยังมีศักยภาพในการปฏิวัติมาตรฐานการชำระเงินอย่างมาก
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง : นักเศรษฐศาสตร์ระดับโลกมอง “Libra” เป็นเหตุให้โลกย้อนมองเงิน “ดอลลาร์สหรัฐฯ” เป็น “สกุลเงินสำรอง” ของโลกอีกครั้ง