Alex Leishman ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งของ River Financial ได้แสดงความไม่พอใจเกี่ยวกับร่างกฎหมายโครงสร้างพื้นฐานของทั้งสองฝ่ายที่อาจก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงต่ออุตสาหกรรมคริปโตรวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ Leishman เชื่อว่าสามารถป้องกันไม่ให้สหรัฐฯ เติบโตเป็นผู้นำทางเทคโนโลยีในยุคนี้ และทำลายชีวิตความเป็นอยู่ของชาวอเมริกันราว 46 ล้านคนที่เป็นเจ้าของบิทคอยน์ และหวังว่าสภาผู้แทนราษฎรจะสร้างกฎเกณฑ์ที่รอบคอบเพื่อให้แน่ใจว่ามีการปฏิบัติตามโดยไม่ก่อให้เกิดการต่อต้านนวัตกรรม
“River Financial ได้เข้าร่วมกับชุมชนบิทคอยน์ที่ในการออกแสดงความคับข้องใจกับบทบัญญัติของกฎหมายที่ระบุไว้ในนาทีสุดท้าย โดยเห็นว่าจะทำลายสถานะความเป็นผู้นำและนวัตกรรมของชาวอเมริกันในสกุลเงินดิจิทัลอย่างร้ายแรง อีกทั้งยังไม่อาจบรรลุเป้าหมายในการเพิ่มรายได้ภาษีจริงๆ สหรัฐอเมริกามีโอกาสทางประวัติศาสตร์ที่จะเป็นผู้นำระดับโลกในการพัฒนา Bitcoin ในขณะที่ระบอบการปกครองแบบกดขี่เช่นจีนและอิหร่านกำลังปราบปรามมัน”
Alex Leishman, ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) และผู้ร่วมก่อตั้ง River Financial ระบุ
ขณะเดียวกัน Leishman กล่าวเสริมว่าบทบัญญัติทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเคอร์เรนซีนั้นกว้างเกินไป อย่างการถือว่าหน่วยงานเช่น Bitcoin miners (นักขุดบิทคอยน์), node operator (นักปฎิบัติการโหนด) และ software developer (นักพัฒนาซอฟท์แวร์) เป็น “โบรกเกอร์” ตามคำจำกัดความ ซึ่งหน่วยงานเหล่านี้ไม่สามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดในการรายงานภาษี ซึ่งท้ายที่สุดแล้วจะบังคับให้ปิดกิจการทั้งหมด หรือย้ายความเชี่ยวชาญและนวัตกรรมไปยังประเทศอื่นๆ
ซีอีโอรายนี้ ยังเชื่อว่าร่างกฎหมายดังกล่าวอาจนำไปสู่การรายงานภาระผูกพันสำหรับชาวอเมริกันจำนวนมากที่เป็นเจ้าของบิทคอยน์ซึ่งหนักกว่าข้อกำหนดที่กำหนดไว้ในสถาบันการเงินแบบเดิม แถมนอกจากจะต่อต้านนวัตกรรมแล้ว ยังปล่อยให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนของชาวอเมริกันเสี่ยงต่อการรั่วไหลและการละเมิด