หนึ่งในความเคลื่อนไหวที่ได้รับการจับตามองในวันนี้ก็คือการที่สามสมาคมชั้นนำทางการเงินของจีนคือ สมาคมการเงินอินเตอร์เน็ตแห่งชาติจีน (National Internet Finance Association of China), สมาคมธนาคารแห่งชาติจีน (China Banking Association), และ สมาคมการชำระเงินและหักบัญชีแห่งชาติจีน (Payment and Clearing Association of China) ออกแถลงการณ์ร่วมสั่งห้ามไม่ให้บริษัททั้งหลายเข้าไปยุ่งเกี่ยวทำธุรกรรมหรือให้บริการที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินในอุตสาหกรรมสินทรัพย์คริปโต
แถลงการณ์ร่วมระบุว่า องค์กรธุรกิจที่เกี่ยวข้องต่างเห็นร่วมกันเป็นเอกฉันท์ให้จีนห้ามใช้สกุลเงินดิจิทัลโดยสิ้นเชิง อย่างไรก็ตาม ข้อสรุปดังกล่าว ก็ไม่ถูกต้องเสมอไป
ทั้งนี้ สื่อจีนส่วนใหญ่รายงานว่า แถลงการณ์ดังกล่าวจัดทำขึ้นเพื่อสกัดกั้นการเก็งกำไรการซื้อขายคริปโตที่มีความเสี่ยงเพื่อป้องกันไม่ให้ตลาดเสี่ยงต่อการโฆษณาเกินจริง โดยที่ธนาคารกลางก็ได้เริ่มโพสต์ของตัวเองด้วยวลีที่คล้ายกันแล้ว
ด้าน นักสังเกตการณ์ชาวจีน และเหล่าสาวกผู้ชื่นชอบในคริปโตทั้งหลายต่างก็ชี้ให้เห็นถึงความเข้าใจผิดที่เกิดขึ้นเช่นกัน
และเป็นที่น่าเสียดายที่ความเสียหายที่เกิดจากความเข้าใจผิดได้เกิดขึ้นแล้วเนื่องจากมูลค่าของ Bitcoin, Ethereum และ altcoins อื่น ๆ ลดลง เนื่องจาก FUD แพร่กระจายในหมู่ผู้ค้า โดย ราคาของ Bitcoin และ Ethereum ณ ช่วงที่เขียนรายงาน ลดลงแล้ว 10.35% และ 10.66% ตามลำดับใน 24 ชั่วโมง
โดยหน่วยงานทางการเงินได้ออกแจ้งเตือนเกี่ยวกับลักษณะการเก็งกำไรของการซื้อขายคริปโตโดยเฉพาะ และเสริมว่าอาจทำให้เกิดการละเมิดอย่างร้ายแรงต่อความปลอดภัยของทรัพย์สินของนักลงทุน รวมถึงความสามารถในการส่งคำสั่งทางเศรษฐกิจและการเงินที่มีอยู่ให้เข้าสู่ภาวะไร้ระเบียบ
ทว่า แทนที่จะเพิ่มกฎระเบียบใหม่ ทางสมาคมได้เตือนบริษัทต่างๆว่า “ การทำธุรกรรม crypto ไม่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย” นี่หมายความว่านักลงทุนต้องรับผิดชอบ แต่เพียงผู้เดียวสำหรับความสูญเสียที่เกิดขึ้นจากการลงทุนในคริปโตแทน
แม้ว่า สกุลเงินดิจิทัลไม่ได้ถูกห้ามอย่างสมบูรณ์ในประเทศจีน แต่บริการแลกเปลี่ยนคริปโตด้วยสกุลเงินหยวนและสกุลเงินต่างประเทศยังคงผิดกฎหมายภายในประเทศ